"รอยด่างพร้อย" ของ "บรรพต-อดีตปลัดเกษตรฯ" กับบทบาทคกก.สรรหา สปช.?
"..นายบรรพต เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับในการดำเนินโครงการลำไยอบแห้ง และถูกบันทึกว่าเป็นผลงานชิ้น "โบว์ดำ" ของกระทรวงเกษตรฯ ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาจนถึงทุกวันนี้.."

หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า นายบรรพต หงษ์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน ซึ่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการไป เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ในช่วงการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ ของนายบรรพต เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับในการดำเนินโครงการลำไยอบแห้ง และถูกบันทึกว่าเป็นผลงานชิ้น "โบว์ดำ" ของกระทรวงเกษตรฯ ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาจนถึงทุกวันนี้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายบรรพต หงษ์ทอง เคยปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถูกชี้มูลความผิดคดีทุจริตในการดำเนินโครงการแปรรูปและการตลาดลำไยอบแห้ง ของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในสมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ดำรงตำแหน่งเป็นรมว.กระทรวงเกษตรฯ
โดยนายบรรพต และข้าราชการหลายคน ถูกระบุว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือก บริษัท ปอเฮงอินเตอร์เทรด จำกัด
ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติ ลงนามในสัญญา ไม่มีหลักประกันสัญญาและหลักประกัน การจำหน่าย โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
ป.ป.ช. ระบุข้อมูลสอบสวนคดีนี้ว่า ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน ปรากฎว่าบริษัท ปอเฮงอินเตอร์เทรด จำกัด ได้รับการจัดจ้างให้มานำลำไยสดจากองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ไปอบแห้ง โดยในปี 2547 อ.ต.ก.ได้ซื้อลำไยสด 312 ล้านตัน เป็นเงิน 3,434 ล้านบาทจากเกษตรกร และส่งให้บริษัทปอเฮงฯ ไปอบแห้ง โดยจะต้องส่งมอบลำไยอบแห้งคืนแก่ อ.ต.ก. 94 ล้านตัน
แต่ปรากฎว่าบริษัทปอเฮงฯ ได้ส่งมอบลำไยเพียง 17 ล้านตัน และ อ.ต.ก.ติดตามคืนมาได้อีก 26 ล้านตัน รวมเป็นลำไยอบแห้งที่ได้รับ 44 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 1,698 ล้านบาท มีลำไยอบแห้งที่บริษัทปอเฮงฯ ไม่ได้นำส่งแต่ อ.ต.ก. 50 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 1,874 ล้านบาท
เบื้องต้น ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทั้งทางวินัยร้ายแรงและทางอาญากับผู้เกี่ยวข้อง 22 ราย ประกอบด้วย
1. นายบรรพต หงษ์ทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. นายชวาลวุฑฒ ไชยนุวัติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการ เตรียมการโครงการแปรรูปและ การตลาดลำไยอบแห้ง
3. นายสุรศักดิ์ ทองเพียร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิ การสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะ กรรมการเตรียมการ โครงการแปรรูปและการตลาด ลำไยอบแห้ง
4. นายชวลิต ชูขจร (ปลัดกระทรวงเกษตรฯ คนปัจจุบัน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักแผนงานและโครงการพิเศษ ในฐานะ กรรมการเตรียมการ โครงการแปรรูปและการตลาด ลำไยอบแห้ง
5. นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองนิติการ ในฐานะ กรรมการเตรียมการ โครงการแปรรูปและการตลาด ลำไยอบแห้ง
6. นายภิญโญ ฉันทศรัทธาการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการองค์การตลาด เพื่อเกษตรกร รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การตลาด เพื่อเกษตรกร
7. นายวรพจน์ วนาพิทักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ อ.ต.ก. (ธุรกิจ- การเกษตร) ในฐานะ ประธานกรรมการจัดจ้าง และจำหน่ายลำไยอบแห้ง
8. นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูป ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในฐานะ กรรมการจัดจ้าง และจำหน่ายลำไยอบแห้ง
9. นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะ กรรมการจัดจ้าง และจำหน่ายลำไยอบแห้ง
10. นายวันชัย ศิริวัฒนะตระกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองสนับสนุน การตลาด ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ การเกษตร ในฐานะ กรรมการจัดจ้าง และจำหน่ายลำไยอบแห้ง
11. นางวิลาวัณย์ ชัยวัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการ สำนักงานธุรกิจพืชผล อ.ต.ก. ในฐานะ กรรมการและเลขานุการ จัดจ้างและจำหน่ายลำไยอบแห้ง
12. บริษัท ปอเฮงอินเตอร์เทรด จำกัด
13. นายปรีชา ชินวัฒนโชติ
14. นางสาวชลธิชา สิทธิธรรม
15. นายเอกชัย แสงสันติธรรม
16. นายวัฒนา ศิริพันธ์
17. บริษัท บุญทิพย์ฟู๊ดโปรดักส์ จำกัด
18. นายก้อง จันทร์บรรจบ
19. นางจิราพร จันทร์บรรจบ
20. นายสายันต์ เชื้อเจ็ดตน
21. บริษัท ท๊อปไฟว์โฮลดิ้ง จำกัด
22.บริษัท อโกรโปรดักส์เน็ทเวิร์ค จำกัด
ขณะที่ นายบรรพต ถูกชี้มูลความผิด ทางวินัยไม่ร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคหนึ่ง และเนื่องจากได้เกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 100 วรรคสอง กำหนดว่า ในกรณีที่ผล การสอบสวนพิจารณาปรากฏว่า ผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ก็ให้งดโทษ ป.ป.ช.จึงไม่ได้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 92
ส่วนข้าราชการ คนอื่นถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง!
ด้วยข้อเท็จจริงเหล่านี้ เมื่อนายบรรพต ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา สปช. ซึ่งมีภารกิจสำคัญในคัดสรรคนดี คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย โดยเฉพาะไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบเข้ามาทำงาน
แต่ครั้งหนึ่ง ตนเองกลับทำผิดพลาด ในการคัดเลือกบริษัทปอเฮงฯ ที่มีความไม่เหมาะสมหลายประการ เข้ามารับงานโครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ มาแล้ว และส่งผลกระทบร้ายแรง จนถึงขั้นถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่ นายบรรพต จะถูกตั้งคำถามถึงเรื่อง "ความเหมาะสม" และ "วิสัยทัศน์" ในการเข้ามาทำหน้าที่สำคัญของประเทศแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายบรรพต เพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความเหมาะสมในการเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการสรรหา สปช.ดังกล่าว ทั้งที่ เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีโครงการลำไยอบแห้ง
นายบรรพต ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "เรื่องนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน" และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ พร้อมระบุว่าอยู่ระหว่างการเดินทางมาต่างประเทศ ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์
เมื่อถามว่า กังวลเสียงวิจารณ์เรื่องความเหมาะสมในการทำหน้าที่นี้หรือไม่ นายบรรพต หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "คุณไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ...ผมว่ามันไม่มีอะไรหรอกมันไม่เกี่ยวข้องกันเลย"
เมื่อถามว่า ใครเป็นผู้ทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งนี้ นายบรรพต ตอบว่า "ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ได้รับตำแหน่งนี้" และปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมยังอยู่ที่ต่างประเทศ เอาไว้เดินทางกลับไปถึงเมืองไทย แล้ว ค่อยคุยกัน" นายบรรพตระบุ
นี่คือ ท่าทีล่าสุดของนายบรรพต ที่ตอบคำถามกับสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับ "รอยด้างพร้อย" ของตนเองที่เกิดขึ้นในช่วงการบริหารงานในตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ
ก่อนเข้ามารับตำแหน่งอันทรงเกียรติ ในฐานะคณะกรรมการสรรหา สปช. ในยุคการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้า คสช.
ที่ให้สัญญาเสียงดังฟังชัดกับ "คนไทย" ทั้งประเทศว่า จะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้ดีขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็นมาในอดีต?
(อ่านประกอบ : คำถามถึง "พล.อ.ประยุทธ์"ตั้ง "ยุทธนา ทัพเจริญ" สนช.ใหม่ คิดดีแล้วหรือ?)
หมายเหตุ: ภาพประกอบจาก motorsportlives.com
