"ประยุทธ์" ประชุมครม.นัดแรก9 ก.ย. ย้ำทำงานโปร่งใสเป็นรัฐบาลติดดิน
พล.อ.ประยุทธ์ เรียกประชุม ครม.นัดแรก 9 ก.ย. ถกเนื้อหานโยบายรัฐบาลก่อนแถลงต่อ สนช. ย้ำให้ทำงานโปร่งใส- เป็นรัฐบาลติดดิน ดูแลประชาชนเต็มที่ เผยตรียมปรับปรุงระบบภาษี ดึงคนทุกกลุ่มเข้ามาอยู่ในระบบ หวังเพิ่มงบประมาณพัฒนาประเทศ -ประกาศลุยตรวจสอบทุจริตโครงการลงทุนขนาด 3 โครงการนำร่อง

เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 5 ก.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) จะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ส่วนการชี้แจงหรือการแถลงนโยบายต่างๆ คงจะหลังวันที่ 9 กันยายน จะนัดเวลากับสภานิติบัญญัติอีกครั้งหนึ่งและหลังจากแถลงนโยบายไปแล้ว จะเป็นการมอบหรือส่งต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีต่อไป โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเป็นผู้ประสานงานและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการให้เชื่อมต่อกันระหว่างระยะ 1 ระยะที่ 2 ส่วนการแก้ไขปัญหาของประเทศในเรื่องต่างๆ รัฐบาลจะทำงานเต็มที่ โปร่งใสตรวจสอบได้
"ในการประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 9 ก.ย.จะเป็นการถกแถลงนโยบายที่จะต้องไปแถลงต่อ สนช.ให้เรียบร้อย เมื่อมีการแถลงนโยบายแล้วรัฐบาลจะเข้าไปทำงานเต็มรูปแบบ เราต้องติดดินให้มากที่สุด เราต้องติดดินเราเป็นข้าราชการ เราเป็นรัฐบาลต้องติดดิน ดูแลประชาชน"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า "ส่วนเรื่องกฎอัยการศึก อย่าไปกังวลอะไรนัก ท่านก็ทราบดีว่ามีอะไรเกิดขึ้น เรามองเห็นอยู่ว่ามีอะไร ซึ่งความจริงเราไม่ได้อยากประกาศถือไว้ จะต้องมีการลดลงตามลำดับ แต่เมื่อไรจะบอกเอง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ในระยะต่อไปจะมีการปรับปรุงระบบภาษี ให้คนไทยเข้ามาอยู่ในระบบภาษีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ กลุ่มคนที่มีรายได้มากอย่าหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเอง คนระดับกลางก็ต้องช่วยรัฐให้มากขึ้น ส่วนคนที่มีรายได้น้อยก็ต้องพยายามยกระดับตัวเองให้ดีขึ้น หางานที่เหมาะสม ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดี
"สำหรับผู้มีรายได้น้อย ผมเห็นใจจริง ๆ แต่ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเอง เราก็จะไม่สามารถเข้ามาอยู่ในระบบภาษีได้ เพราะฉะนั้นถ้าคนไทยทุกคนหรือส่วนใหญ่สามารถเข้ามาสู่ระบบภาษีได้ สัก 70% - 80% มากกว่าปัจจุบัน เราจะมีรายได้ให้กับรัฐมากขึ้น เมื่อมีมากขึ้นงบประมาณที่ได้มาก็สามารถจะไปเฉลี่ยไปดูแลคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้อย่างที่ทุกคนต้องการได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไร รัฐบาลนี้มีหน้าที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนนั้น สามารถที่จะเข้ามาอยู่ในระบบภาษีได้ ไม่ต้องกลัวการเสียภาษี ต้องเป็นธรรมอยู่แล้ว รายได้น้อยก็เสียน้อย รายได้มากก็ต้องเสียมาก"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนงานด้านเศรษฐกิจ จะมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 58 ให้เร็วขึ้น เริ่มเห็นผลในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งได้ย้ำไปว่าต้องทำก่อนทำจริงเห็นผลยั่งยืน ส่วนการใช้จ่ายเงินต้องคุ้มค่าเป็นประโยชน์แก่ส่วนร่วม ขณะที่การให้บริการของหน่วยงานจะต้องลดขั้นตอนทางธุรกิจให้รวดเร็วขึ้น
"ในเรื่องของการพิจารณางบประมาณ ผมเรียนไปแล้วว่าขณะนี้เสร็จไปแล้วทั้ง 19 กระทรวง และมีส่วนราชการที่ไม่สังกัดกระทรวงอีกจำนวนหนึ่ง ภาพรวมก็ปรับลดไปได้ 4,496 ล้านบาท และได้พิจารณาโดยคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ไปแล้วเมื่อวันที่ 3 - 4 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ก็จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ก.ย. แล้วก็จะเสนอ สนช. ในวันที่ 11 ก.ย. และเข้าสู่วาระการประชุม สนช. ในวันที่ 17 ก.ย. 57"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า ส่วนเรื่องความโปร่งใส วันนี้ คสช. ได้เร่งรัดเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่านิ่งดูดาย ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมามีการตรวจสอบหลาย ๆ โครงการ โดยมี คตร. (คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ) ร่วมกับองค์การต่อต้านคอรัปชั่นประเทศไทย (ACT THAI) ได้พิจารณาว่าจะนำระบบการบริหารจัดการมาตรวจสอบความโปร่งใสของโครงการ ที่เรียกว่า COST โดยจะมีการนำร่องตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ 3 โครงการก่อน ที่มีการลงทุนสูง มูลค่าเป็นหมื่นล้าน ต้องเข้าไปตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นการวางแผน ในเรื่องของการออกแบบ อะไรก็แล้วแต่ การก่อสร้าง นี่ก็จะดูทุกระบบ ฉะนั้นระมัดระวังด้วย เจ้าหน้าที่หรือใครก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องเหล่านี้อย่าให้ผิดพลาด
"ส่วนเรื่องหนังสือ เรื่องอะไรต่าง ๆ เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองค่อยว่ากัน ผมไม่ไปทะเลาะด้วย ท่านจะเขียนจะออกอะไร ก็ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ก็ขอร้องกัน ผมคิดว่าฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายกระบวนการยุติธรรมเขาคงไม่ได้ไปอ่านหนังสือมา เขาใช้กฎหมายใช้หลักฐาน เขาคงไม่นำอันใดอันหนึ่งมาจับแล้วไปชี้ถูกชี้ผิด ได้ไม่ได้ เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
