"ประยุทธ์" ยันมุ่งมั่นปราบทุจริต-ไร้ประชานิยม-สั่งสอบ"ไมโครโฟนฉาว"
"ประยุทธ์" แถลงโนยบายไร้ประชานิยม พร้อมเร่งเก็บภาษีที่ดิน-มรดก ใช้สันติวิธีแก้ไฟใต้ ยันมุ่งมั่นปราบทุจริต สั่งตั้งกรรมการสอบ "ไมโครโฟนฉาว"แล้ว เตือน "อะไรที่ไม่ใช่เรื่อง ก็อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่"

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า นโยบายรัฐบาลมี 11 ด้าน ตั้งอยู่บนพื้นฐาน 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ โดยไม่มีนโยบายพรรคการเมือง ไม่มีประชานิยมที่หวังคะแนนประชานิยม จึงไม่ต้องวิตกว่าจะพาประเทศเสียวินัยการคลังในอนาคต แต่ทุกกระทรวงจะทำงานบูรณาการสอดคล้องกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า นโยบายของรัฐบาลมีหลักอยู่ที่การการปฏิรูป มีความเป็นธรรม ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น โดยกำหนดให้หน่วยงานต้องปฏิบัติภายในกรอบเวลา 1 ปี ตามปีงบประมาณ และระยะเวลาของรัฐบาล แต่จะต้องทำให้เห็นว่าประเทศจะเดินไปทางไหน มีการวางแผนให้ประชาชนรับทราบเพื่อพิจารณา เช่น เรื่องผังเมือง เมืองเก่าหนาแน่นต้องตีกรอบให้ชัดเจน
สำหรับด้านนโยบายเศรษฐกิจ รัฐบาลจะสานต่อนโยบายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจพร้อมรักษาเสถียรภาพของราคาอย่างเหมาะสม อาทิ การปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ การปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษีให้จัดเก็บได้ครบถ้วน โดยปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้คงอัตราภาษีเงินได้ในระดับปัจจุบัน ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และขยายฐานการจัดเก็บภาษีประเภทใหม่ ซึ่งจะเก็บจากทรัพย์สิน เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และระยะยาวต้องวางรากฐานเพื่อความเจริญเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนการทุจริตคอร์รัปชั่น จะป้องกันและปราบปรามอย่างเต็มที่ เช่น ปัญหาเรื่องไมโครโฟน ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ฉะนั้นอะไรที่ไม่ใช่เรื่อง ก็อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้จะเร่งปรับปรุงกฎหมาย ที่ล้าสมัย ไม่เป็นธรรม เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และเพิ่มศักยภาพหน่วยงานที่มีหน้าที่ให้ความเห็นทางกฎหมายและจัดทำกฎหมายให้ปฏิบัติงานได้รวดเร็ว
ด้านปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกฯระบุว่า 10 ปีที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้เชิงความคิด ดังนั้นต้องใช้หลายวิธีการภายใต้ 9ยุทธศาสตร์ พูดคุยสันติภาพอย่างยั่งยืน ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม และใช้ยุทธศาสตร์เข้าใจเข้าถึงพัฒนาตามแนวพระราชดำริ
“เราต้องใช้แนวทางพูดคุยแบบสันติวิธี สร้างความเข้าใจกับผู้เห็นต่างภาครัฐ รวมทั้งดำเนินการทางกฎหมาย ยืดถือกระบวนการยุติธรรม นิติธรรม สิทธมนุษยชน ไม่เลือกปฏิบัติ ควรคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม”
"อย่างไรก็ตาม นโยบายที่แถลงเป็นแนวทางการทำงานของรัฐบาล จะสำเร็จได้ต่อเมื่อมีการจัดทำแผนปฏิบัติราชการรองรับอย่างเป็นรูปธรรม พูดให้ดี เขียนให้หรู แต่ไม่ได้ทำ ก็ไม่เกิดประโยชน์ ฉะนั้นทุกกระทรวงจะต้องยึดถือแล้วนำไปปฏิบัติและทำเพิ่มเติมไปด้วย สิ่งไหนทำได้ ก็ทำทันที แล้วให้เกิดผลสัมฤทธิ์ภายใน 1 ปี รัฐบาล เพื่อให้เกิดความยั่งยืนตามนโยบายทำก่อน ทำจริง ทำทันที เกิดผลสัมฤทธิ์ และยั่งยืน และเพิ่มหลักจริงใจ จริงจัง และยั่งยืน" นายกฯระบุ
