ลูกกัดดาฟโผล่ ไม่ได้โดนจับ
อุบที่หลบซ่อน เผด็จการตัวพ่อ ยังไม่ยอมแพ้! คนไทยกว่า100 ตกค้างในลิเบีย
ลูกชาย “กัดดาฟี” ปรากฏตัวเย้ยฝ่ายกบฏ หลังมีข่าวแพร่สะพัดถูกจับกุมตัวไว้ได้ระหว่างปฏิบัติการเดือดทะลวงกรุงตริโปลี ยันรัฐบาลยังไม่พ่ายแพ้และกัดดาฟียังสบายดีแม้จะอยู่ในสภาพเป็นขอมดำดิน ทูตลิเบียนแฉกัดดาฟีวางตัวลูกคนโตให้เป็นทายาทสืบทอดอำนาจเผด็จการต่อ ขณะที่การรบเริ่มลดลงแล้ว โอบามาห่วงสถานการณ์หลังสงครามในลิเบียเลิกแล้ว ระบุขอให้การเปลี่ยนถ่ายอำนาจเป็นไปอย่างสันติและยุติธรรม ให้ชาวลิเบียมีอำนาจตัดสินใจในตัวเอง
หลังจากที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลระดมกำลังเข้ารบแบบดุเดือดเลือดพล่านและเข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงตริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ฐานที่มั่นหลักของ พ.อ. โมอัมมาร์ กัดดาฟี จอมเผด็จการผู้นำลิเบีย ที่ครองอำนาจมานาน 42 ปี ได้สำเร็จ พร้อมจับกุมทายาทอำนาจเครือญาติจอมเผด็จการไว้เป็นตัวประกัน
สำนักข่าวต่างประเทศยังคงเกาะติดการรายงานสถานการณ์ในลิเบียเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ว่า นายเซอิฟ อัลอิสลาม บุตรชายของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ได้ปรากฏตัวขึ้นภายหลังที่มีกระแสข่าวว่า กัดดาฟีหลบหนีออกนอกประเทศ และฝ่ายต่อต้านจับกุมลูกชายของกัดดาฟีไว้ได้ โดยนายอัล-อิสลาม นั่งรถมายังศูนย์บัญชาการในเขตบับ อัล-อาซิซิยาห์ พบปะกลุ่มผู้สนับสนุนหลายสิบคนที่ต่างส่งเสียงโห่ร้องและโบกธงชาติสีเขียว พร้อมกับชูภาพ 2 พ่อลูกจอมเผด็จการ จากนั้นนายอัล-อิสลาม ได้พบกับกองทัพนักข่าวต่างชาติที่โรงแรมริซอซ ในกรุงตริโปลี ประกาศย้ำชัดว่า รัฐบาลยังชนะฝ่ายกบฏ กรุง ตริโปลียังเป็นของรัฐบาล ส่วนเรื่องที่ชาติตะวันตกใช้เทคโนโลยีทันสมัยแทรกแซงระบบโทรคมนาคม ส่งข้อความถึงประชาชนว่าโค่นล้มรัฐบาลได้นั้น ถือเป็นกลยุทธ์สงครามทางสื่อที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายและเหตุก่อการร้ายในลิเบีย
ขณะเดียวกัน นายอัล-อิสลามได้แสดงท่าทีเพิกเฉยหมายจับสากลของไอซีซีที่ประกาศจับตนและกัดดาฟี พร้อมแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม โบกไม้โบกมือชู 2 นิ้ว สัญลักษณ์แห่งชัยชนะให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน ขณะเดียวกัน นายอาลี สุไลมาน อูจาลี เอกอัครราชทูตลิเบียประจำสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน แห่งสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ (เอ็นทีซี) ยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า นายโมฮัมเหม็ด กัดดาฟี บุตรชายคนโตของกัดดาฟี พี่ชายของอัล-อิสลาม ซึ่งถูกวางตัวเป็นทายาททางการเมืองคนต่อไปของกัดดาฟี ได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังฝ่ายกัดดาฟีจนหลบหนีการจับตัวของกลุ่มกบฏไว้ได้ ส่วนกัดดาฟีที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครรู้แหล่งกบดานที่แน่ชัดนั้น นายอัล-อิสลามเผยว่า ยังสบายดีและอยู่ในลิเบียอย่างแน่นอน สำหรับบรรยากาศในกรุงตริโปลีตลอดคืนวันที่ 22 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ตกอยู่ในความมืด เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ยกเว้นฐานที่มั่นของกัดดาฟี แต่ยังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ
ก่อนหน้านี้กองกำลังฝ่ายกัดดาฟียิงจรวดสกัดพิสัยใกล้หนึ่งลูกแถวเมืองเซอร์ต บ้านเกิดของกัดดาฟี ที่อยู่ใต้อาณัติฝ่ายกัดดาฟี เมื่อเวลา 14.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 01.15 น. ของวันอังคารที่ 23 ส.ค. ตามเวลาไทย แต่เป้าหมายการโจมตีไม่ชัดเจน รวมถึงรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเคยยิงลูกแรกเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ใกล้เมืองเซอร์ต และไปตกพื้นที่นอกทะเลทรายเบรกา มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และยังได้ยินระเบิดแถวเขตบับ อัล-อาซิซิยาห์เสียงดังสนั่น คาดว่ายังมีการปะทะกันแม้กำลังฝ่ายกัดดาฟีเริ่มลดลง
นายสไตพ์ เมซิช อดีตประธานาธิบดีโครเอเชีย ผู้ใกล้ชิดกับกัดดาฟีอ้างว่า ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับกัดดาฟีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และว่ากัดดาฟีพร้อมก้าวลงจากอำนาจและลดบทบาททุกด้าน ถ้าพันธมิตรองค์กรสนธิ สัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยุติการโจมตีทางอากาศในลิเบียและได้แจ้งเรื่องนี้กับทูตของจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ ประจำโครเอเชียแล้ว
ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยังคงกดดันให้กัดดาฟีและพวกวางอาวุธ เพราะถือว่าไร้ ความชอบธรรมการปกครองลิเบียอีกต่อไป แต่โอบามาก็แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์นับจากนี้ในลิเบียที่แม้สงครามเลิก แต่ความไม่สงบยังคุกรุ่น และขอให้การเปลี่ยนถ่ายอำนาจเป็นไปอย่างสันติและยุติธรรม รวมถึงให้เกิดจากความปรองดองกัน เพื่อให้ชาวลิเบียมีอำนาจในการตัดสินใจชี้ชะตาตัวเอง ขณะที่ชาติยุโรปก็วิตกถึงการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ ชนเผ่าและความคิดทางการเมือง จนแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุนองเลือดเหมือนอิรักหลังโค่นอำนาจซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการอิรัก
ขณะเดียวกัน องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) เผยถึงสถานการณ์ที่ยังน่ากลัวในกรุงตริโปลี ถือเป็นอุปสรรคกับเรือของไอโอเอ็ม ที่ต้องการเข้าจอดเทียบท่าเพื่ออพยพชาวต่างชาติราว 300 คน จึงขอร้องทุกฝ่ายให้ไอโอเอ็มปฏิบัติหน้าที่ด้านมนุษยธรรมในการอพยพประชาชนหลายพันคนที่ต้องการออกจากกรุงตริโปลี
ในส่วนคนงานไทยในลิเบียนั้น นางสุทัศนีย์ สืบวงศ์แพทย์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและนายสุทธิ สุโกศล ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแรงงานไทยในกรุงตริโปลีไม่มีแล้ว เพราะเดินทางกลับมาหมดตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ประมาณ 1 หมื่นคน และไม่มีการจัดส่งเข้าไปอีก แต่อาจมีคนไทยอยู่บ้าง บางส่วนเป็นคนไทยที่แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่นั่น แต่ที่เมืองเซปฮาห่างกรุงตริโปลีลงไปทางใต้ยังมีแรงงานไทยอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือผลกระทบใดๆ กรมฯพยายามติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและประสานงานกับกรมการกงสุลเพื่อช่วยเหลือคนไทยได้ทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน
วันเดียวกัน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ขณะนี้มีคนไทยในลิเบีย 100 กว่าคน ส่วนใหญ่ เป็นแรงงาน แต่อยู่ในพื้นที่นอกกรุงตริโปลี และเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในลิเบียมานานแล้ว หรือแต่งงานกับชาวลิเบีย โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงตริโปลีได้ติดต่อกับคนไทยในลิเบียเป็นระยะอยู่แล้ว ทราบว่าทั้งหมดปลอดภัยดี และยังไม่มีคนไทยผู้ใดแสดงความประสงค์ที่จะให้สถานเอกอัครราชทูตช่วยเหลือออกนอกประเทศ อย่างไรก็ดี สถานทูตได้แนะนำคนไทยในกรุงตริโปลีให้อยู่แต่ในที่พักอาศัยและหลีกเลี่ยงที่ชุมนุม
ที่มาจาก :