'วัชระ' งัดคำปราศรัย 'ตู่-เหวง' มัดรู้มีชุดดำ
"วัชระ" งัดคำปราศรัย "ตู่-เหวง" มัดรู้มีชุดดำ เตือนรีบมอบตัวสารภาพศาลก่อนถูกตัดตอน จี้ดีเอสไอ รื้อคดีก่อการร้ายใหม่ สาวถึงทุนตัวบงการ
วันที่ 15 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมชายชุดดำที่ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน ในเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 ว่า ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง รอง ผบ.ตร. ที่ทำหน้าที่สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่จับกุมชายชุดดำ ที่ก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในปี 2553 แต่แกนนำคนเสื้อแดง ที่เป็นบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังปฏิเสธราวไส้เดือนถูกขี้เถ้า จึงขอให้ยอมรับความจริง ที่ได้ก่อเหตุจนเกิดความสูญเสีย ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน ผู้บริสุทธิ์
คนที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่ามีชายชุดดำหรือไม่ คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่เป็นคนปลุกระดมให้ประชาชนมาชุมนุม และปราศรัยขอบคุณชายชุดดำ ในวันที่ 10 เม.ย. 53 ที่เวทีผ่านฟ้าฯ หลังเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหาร โดยระบุว่า "ต้องขอบคุณชายชุดดำ ถ้าไม่มีพวกเขา พวกเราคงตายมากกว่านี้เยอะ" โดยคนที่บันทึกข้อความนี้ คือ นักข่าวจากเดอะเนชั่น ที่ระบุไว้ในหนังสือ “คนข่าวหลังม่านม็อบราชประสงค์ หน้าที่และชีวิต” หน้า 59 ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ก็ระบุชื่นชมกลุ่มชายชุดดำ บนเวทีวันดังกล่าวด้วย
นายวัชระ กล่าวต่อว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ก็เคยปราศรัยให้เผาทั่วประเทศ โดยพร้อมรับผิดชอบเอง คนเสื้อแดงขี้ตกใจ วิ่งเข้าห้าง หากระเป๋าแบรนด์เนม หาเครื่องประดับเพชร ทองทั้งหมดนี้คือ คำยืนยันว่า ชายชุดดำมีจริง และมีการก่อให้เกิดความรุนแรง เผาบ้าน เผาเมือง เป็นการปลุกระดมให้ประชาชนต่อสู้ อ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตยของเขา ทั้งนี้ ตนอยากเตือนไปถึงชายชุดดำให้ระวังการฆ่าตัดตอน จึงขอให้รีบมอบตัวต่อตำรวจ ก่อนที่จะสายเกินไป และให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม สารภาพและเปิดโปงผู้ที่อยู่เบื้องหลังชายชุดดำ เพื่อให้ได้รับการบรรเทาลดโทษในชั้นศาลต่อไป
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขอเรียกร้องถึง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้รื้อสำนวนขยายผลในคดีก่อการร้ายที่ส่งถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ลงนามยืนยันว่ามีชายชุดดำเข้าร่วมปฏิบัติการในเหตุการณ์เดือน เม.ย.-พ.ค. 53 แต่มากลับลำในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยระบุในสำนวนการสอบสวนว่า ไม่มีชายชุดดำ โดยรื้อสำนวนสอบใหม่ เพื่อหาตัวผู้บงการตัวจริง เพราะในสมัยนายธาริตมีการเป่าคดีให้กับผู้ต้องหาบางคน ตนมั่นใจว่าสามารถรื้อคดีที่ อสส.ไม่สั่งฟ้องคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายได้ เนื่องจากมีหลักฐานใหม่ เกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่ระบุว่า มีการโอนเงินจาก น.ส.กริชสุดา คุณะเสน ให้ชายชุดดำที่ถูกจับกุม จึงควรขยายผล เพื่อสาวไปถึงต้นตอผู้สนับสนุนทางการเงินให้กับชายชุดดำ ถ้าตำรวจและดีเอสไอทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่าผู้บงการที่อยู่ต่างประเทศ จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายในที่สุด คสช.ก็ต้องดำเนินการตรงไปตรงมาในทุกเรื่อง เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง
ขอบคุณข่าวจาก