นพ.ประเวศ หนุนสร้างชมรมรักการอ่าน ผุดห้องสมุดหมู่บ้านที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือดี
ประธาน คสป. ชี้หนังสือนิทาน ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็น ‘ยาดี’ สร้างศีลธรรม-สติปัญญาให้กับเด็ก แนะส่งเสริมการอ่านนิทานให้เด็ก-สร้างชมรมรักการอ่านทั่วประเทศ เชื่อจะเปลี่ยนสังคมไทยให้มีความเป็นธรรม ยุติธรรมได้
วันที่ 24 สิงหาคม มูลนิธิเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สนับสนุนโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน จัดพิธีส่งมอบรถเข็นนิทานเพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยเด็ก เนื่องในวาระ 100 ปีชาตกาล ศาสตราจารย์ นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ภายใต้โครงการ “รถเข็นนิทานสานความห่วงใย” ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ
นายพิภพ ธงไชย กรรมการและรองเลขานุการ มูลนิธิเด็ก กล่าวถึงโครงการดังกล่าวว่า นับเป็นเรื่องดี เพราะบ้านเราขาดในเรื่องของวัฒนธรรมการอ่าน อีกทั้งเด็กไทยยังขาดแคลนหนังสือนิทานที่ดีๆ เนื่องจากนักเขียนนิทานที่ดีในประเทศไทยมีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับในประเทศแถบยุโรป
“การอ่านนิทานก่อนนอนไม่ได้เป็นวัฒนธรรมไทย อีกทั้งหากดูจากภาพยนตร์ของต่างประเทศจะพบว่า เรื่องใดที่เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กก็มักจะมีฉากของการเล่น การอ่านนิทานเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ในบ้านเราเรื่องราวลักษณะดังกล่าวอาจยังมีน้อย แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า วัฒนธรรมการอ่านของบ้านเราจะไม่มีเลย เพราะเด็กไทยนิยมอ่านหนังสือให้ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง”นายพิภพ กล่าว และว่า ผลการวิจัยส่วนใหญ่ระบุว่า นิทานช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็ก แต่นิทานในบ้านมักจะสอนว่า ควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ขณะที่โลกสมัยใหม่ต้องการหนังสือนิทานที่สร้างเสริมจินตนาการให้กับเด็ก
ทั้งนี้ นายพิภพ กล่าวด้วยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อสานปณิธาน และเชิดชูเกียรติคุณของ ศ.นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว อดีตประธานที่ปรึกษามูลนิธิเด็ก ผู้สร้างแรงบันดาล สร้างที่ยืนให้ผู้ที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้สังคม
จากนั้น ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ปาฐกถาเรื่อง “หนังสือนิทานเพื่อการเยียวยาผู้ป่วยเด็กและเยียวยาสังคม" ตอนหนึ่งว่า ปัญหาของคนไทยอย่างหนึ่งคือ ชอบสนใจเรื่องใหญ่ๆ แต่ได้ผลเล็ก แต่ไม่สนใจเรื่องเล็กๆ ที่ได้ผลใหญ่ อย่างเช่น เรื่องหนังสือนิทานเด็ก เราอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่กลับเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดวงจรอุบาทว์ในสังคมไทย ซึ่งมีโครงสร้างทางสังคม ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม จนนำไปสู่ความเสริมเสียทางศีลธรรม ดังนั้น เมื่อศีลธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับโครงสร้าง คนรุ่นหลังที่เกิดมาในสังคม สิ่งแวดล้อมดังกล่าวก็พลอยไม่มีความเข็มแข็งตามไปด้วย ในที่สุดก็ขาดความเป็นธรรม ความยุติธรรมวนเวียนไม่รู้จบ
“ขณะเดียวกัน เมื่อมองจากมุมวิวัฒนาการของมนุษย์จะพบว่า สมองของมนุษย์ประกอบด้วย 1.สมองบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นสมองที่มาจากสัตว์เลื้อยคลาน ทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ การหลบภัย ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด 2.สมองส่วนกลาง เป็นสมองที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกตามลักษณะสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และ 3. สมองส่วนหน้า เป็นส่วนของการเรียนรู้ สติปัญญา วิจารณญาณ ศีลธรรม”
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงสังคมที่มีการต่อสู้ ขาดศีล สะท้อนถึงการใช้สมองส่วนหลัง ใช้ข้อมูลเท็จ ใช้การโกหก เพื่อทำร้ายกัน ซึ่งสังคมไทยเข้าเกียร์สมองส่วนหลังมากเกินไปแล้ว ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนเข้าเกียร์หน้า ขับเคลื่อนเรื่องสติปัญญา ศีลธรรม การทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ โดยให้เด็กอ่านนิทานที่ดี เพื่อไปกระตุ้นสมองส่วนหน้าให้เจริญเติบโต และกลายเป็นโปรแกรมที่เหนียวแน่นต่อไป
“หากต้องการเปลี่ยนสังคมไทยให้มีความเป็นธรรม ยุติธรรม ใช้ความจริง ต้องส่งเสริมเรื่องนิทานเด็ก ยิ่งหากทำให้เกิดขึ้นทั้ง 80,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ สร้างชมรมรักการอ่าน มีห้องสมุดหมู่บ้านที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือดีๆ เชื่อว่าจะทำให้ทุกหมู่บ้าน สร้างคนดี ตัดวงจรชั่วร้ายในสังคมได้”
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญของบ้านเราอีกอย่างคือ หนังสือดีๆ ขายได้น้อย ทำให้ไม่มีพลังในการสร้างนักเขียนที่ดี หรือมีการแปลหนังสือดีๆ ซึ่งแตกต่างกับประเทศญี่ปุ่นที่แปลหนังสือดีแทบทุกเรื่อง ดังนั้น ไม่ว่าประเทศจะเกิดสึนามิ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดก็ไม่เกิดการจลาจล อีกทั้งจากกราฟแสดงความเหลื่อมล้ำทางรายได้ทั่วโลก ยังระบุชัดว่า ประเทศที่เหลื่อมล้ำต่ำสุดคือญี่ปุ่น สแกนดิเนเวีย ขณะที่อเมริกา อังกฤษ กลับพบว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงสุด ฉะนั้น การอ่านหนังสือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเฉพาะท่ามกลางสังคมไทยที่อาจไม่มีความหวัง ทุกอย่างเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่รัฐบาลจะทำได้ ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถเข็นนิทานซึ่งนำส่งมอบในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 100 คัน โดยจะจัดส่งให้กับผู้ป่วยเด็กตามโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศจำนวนกว่า 64 แห่ง เพื่อนำไปใช้ในหอผู้ป่วยใน โดยในงานนี้มีผู้แทนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ ผู้แทนจากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลน่าน บ้านพักฉุกเฉิน บ้านโฮมฮัก ฯลฯ ร่วมรับมอบ
