นาทีถล่มบ้านผู้ใหญ่ฯหนังเหนียวแห่งตะโล๊ะเว และปากคำพยานเหตุโจมตีฐานที่เกาะแลหนัง
“ช่วงที่ยิงปะทะกันนั้น มีคนร้ายคนหนึ่งบุกขึ้นมาบนบ้าน ถามหาตัวผม พร้อมกับถือมีดเพื่อจะเชือดคอ ผมจึงยิงออกไปถูกคนร้ายเซล้มลง เพื่อนได้ช่วยพยุงตัวออกไป เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายต้องการฆ่าล้างครอบครัวของผมตามที่ได้ประกาศมาโดยตลอด”
เป็นเสียงของ “ผู้ใหญ่ฯเลาะ” หรือ นายดอเลาะ เซ็งมะสู อดีตผู้ใหญ่บ้านตะโล๊ะเว หมู่ 9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา หลังถูกคนร้ายบุกสังหารคนในบ้าน เผาบ้าน และยังยิงปะทะกับกองกำลังทหารพรานจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ 1 ใน 3 เหตุช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายดอเลาะ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ผู้ใหญ่ฯเลาะแห่งตะโล๊ะเวะ” เป็นบุคคลที่ประกาศตัวต่อต้านกลุ่มก่อความไม่สงบ และเป็นเครือข่ายต่อสู้คนร้ายของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2553
ผู้ใหญ่ฯเลาะเคยนำกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองปิดล้อมเทือกเขาตะโล๊ะเว และยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบจนเสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ทางราชการสนับสนุนอาวุธปืน พร้อมบรรจุลูกๆ และหลานของผู้ใหญ่ฯเลาะเป็นอาสาสมัครทหารพราน ขณะที่ตัวผู้ใหญ่ฯเลาะเอง เคยถูกคนร้ายยิงถล่มมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง กระทั่งได้รับการขนานนามว่า “ผู้ใหญ่บ้านหนังเหนียวแห่งตะโล๊ะเว”
ย้อนรอยเหตุคนร้ายถล่มบ้านผู้ใหญ่ฯเลาะ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ระทึกขวัญซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะมิคสัญญีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตีสามของวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.2554 เมื่อมีคนร้ายกลุ่มใหญ่ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่บ้านของนายดอเลาะ เซ็งมะสู เลขที่ 85 บ้านตะโล๊ะเว หมู่ 9 ต.ปะแต อ.ยะหา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย ทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
รายชื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย
1) นายนิสุไลมาน เซ็งมะสู อายุ 33 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปะแต ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ใหญ่ฯเลาะ เสียชีวิต
2) ด.ญ.ยัสมี เซ็งมะสู อายุ 4 ปี ลูกสาวของนายนิสุไลมาน เสียชีวิต
3) นางเยาะ เซ็งมะสู อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
4) ด.ญ.อาซียะ เซ็งมะสู อายุ 7 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
5) ด.ญ.ซูฮา เซ็งมะสู อายุ 2 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
6) อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) นิโซ๊ะ เซ็งมะสู อายุ 26 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4702 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
7) อส.ทพ.มะซอบือรี เซ็งมะสู อายุ 25 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4702 ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
8) น.ส.สากีน๊ะ เจ๊ะเลาะ อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บ
9) ด.ช.ซุลกอรซัย เซ็งมะสู อายุ 11 ปี ส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
10) นายนิอาซัน เซ็งมะสู อายุ 22 ปี ส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
จากการสอบปากคำพยานและตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายหลายสิบคนลอบเข้าไปทางหลังบ้านของผู้ใหญ่ฯเลาะ และใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเปิดทางหลายนัด ทำให้ฝ่ายผู้ใหญ่ฯเลาะและลูกๆ ยิงตอบโต้ จนเกิดการปะทะกันนานร่วมชั่วโมง จากนั้นคนร้ายได้จุดไฟเผาบ้านของผู้ใหญ่ฯเลาะจนเสียหายหมดทั้งหลังก่อนจะหลบหนีไป
นอกจากนั้นยังมีรถกระบะ 3 คัน รถหกล้อ รถจักรยานยนต์ และรถแทรคเตอร์อีกอย่างละ 1 คันได้รับความเสียหาย โดยคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนเอชเคประจำกายของ อส.ทพ.มะซอบือรี เซ็งมะสู ไปด้วย
ซุ่มโจมตีทหารพรานชุดสนับสนุนเจ็บอีก 2
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณตี 4 กองร้อยทหารพรานที่ 4702 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ได้จัดกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ใหญ่ฯเลาะ แต่ระหว่างทางบนทางหลวงสาย 4077 บ้านหลักเขต-บ้านตะโล๊ะเว ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจนทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ประกอบด้วย ส.ท.ธงรบ รัตนรักษ์ อายุ 29 ปี และ อส.ทพ.ประกอบ สายชะตา อายุ 32 ปี
จากนั้นคนร้ายได้วางวัตถุต้องสงสัย โปรยตะปูเรือใบ และตัดต้นไม้ขวางถนนอีก 4 จุดเพื่อสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ใหญ่ฯเลาะ
ปากคำพยานแฉนาทีถล่ม-ยิงเปิดทางด้วยเอ็ม 79
ต่อมาเวลา 07.00 น. พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้นำกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และพบอุปกรณ์สนามของกลุ่มคนร้ายที่ทำตกไว้ โดยในกระเป๋าเป้มียาและเวชภัณฑ์ เปลสนาม อาหารแห้ง ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง บุหรี่ต่างประเทศ เสื้อผ้า และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงนำส่งฝ่ายนิติวิทยาศาสตร์เพื่อเก็บหลักฐานดีเอ็นเอ
สอบปากคำพยานได้ความว่า เมื่อเวลาประมาณตี 3 ขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน มีกลุ่มคนร้ายจำนนกว่า 30 คนเข้าโอบล้อมบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมยิงถล่มเปิดทางด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ตามด้วยอาวุธสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16 ปืนลูกซอง และปืนพก จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด
ในระหว่างการปะทะ คนร้ายอีกชุดหนึ่งที่ซุ่มอยู่ด้านหลังบ้านได้ลอบเข้าไปวางระเบิดภายในบ้าน แล้วลากสายชนวนระเบิดออกมา ก่อนจุดระเบิดเป็นเหตุให้บ้านถูกระเบิดและไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนับสิบราย หลังจากนั้นทหารพรานกองร้อยที่ 4702 ได้ส่งกำลังเข้าช่วยเหลือ แต่ก็เจอซุ่มโจมตีระหว่างทางจนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกหลายนาย
ส่วนผู้ใหญ่ฯเลาะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทำให้ฉายาผู้ใหญ่ฯหนังเหนียวยังคงขลังอยู่ต่อไป
ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ใหญ่ฯเลาะ และมอบเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทุกราย ส่วนในพิธีฝังศพนายนิสุไลมาน กับ ด.ญ.ยัสมี นั้น มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และประชาชนที่ทราบข่าวไปร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดว่าเป็นกลุ่มของ นายอุไบดีละห์ หรือ ฮูไบดีละห์ รอมือลี แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ระดมแนวร่วมมาจาก อ.บันนังสตา อ.กาบัง และ อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อก่อเหตุถล่มบ้านหมายเอาชีวิตผู้ใหญ่ฯเลาะในครั้งนี้
เหตุการณ์ถล่มฐานที่มั่นของผู้ใหญ่ฯเลาะ กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านทั้ง อ.ยะหา ไม่ว่าจะเป็นตามร้านน้ำชา มัสยิด หรือชุมชน โดยหลายคนหวั่นเกรงว่าเร็วๆ นี้อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงเพื่อเป็นการล้างแค้นตามมา
ควันหลงเหตุถล่มฐานทหารพรานที่เกาะแลหนัง
เหตุร้ายขนาดใหญ่อีกหนึ่งเหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันพุธที่ 24 ส.ค.เมื่อกลุ่มคนร้ายหลายสิบคนบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาสันติ 42-3 ซึ่งประกอบกำลังร่วมกันทั้งทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และอาสารักษาดินแดน (อส.) ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา
โดยคนร้ายมากันเต็มรถกระบะ 2 คัน และเกิดการยิงปะทะกันนานกว่า 25 นาที ทำให้ อส.ราเหม แฉะ อส.ประจำ อ.เทพา และ อส.ทพ.มะนารี อาหามะ เสียชีวิต ขณะที่ นายนุดดีน แน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านเกาะแลหนัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากนั้น ระหว่างที่กลุ่มคนร้ายขับรถหลบหนี ยังได้เปิดฉากปะทะกับกำลังทหารพรานชุดสนับสนุน ทำให้คนร้ายต้องทิ้งรถและวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินเพื่อไล่ล่าและบีบพื้นที่ รวมทั้งปิดเส้นทางเข้า-ออกบ้านเกาะแลหนังถึง 15 ชั่วโมง
เจอเปลสนาม-ระเบิดดักสังหาร
รถกระบะที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ตน 2054 ยะลา และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน คม 9898 ยะลา แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม
แต่ที่น่าสนใจคือในกระบะรถ มีไม้ 2 อันและผ้าถุงจำนวน 4-5 ผืน สันนิษฐานว่าคนร้ายเตรียมไว้สำหรับทำเปลสนามเพื่อหามคนเจ็บ และยังพบคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่อีก 1 อัน
นอกจากนั้น ในระหว่างปิดล้อมไล่ล่าในพื้นที่บ้านเกาะแลหนัง เจ้าหน้าที่ทหารพรานยังพบกล่องเหล็กต้องสงสัย 2 กล่อง ผูกติดไว้กับต้นไม้ 1 กล่อง และเสาไฟฟ้าริมถนน 1 กล่อง โดยลากสายไฟฟ้าจุดชนวนเข้าไปในป่า เมื่อตรวจสอบพบเป็นระเบิดจริงที่คนร้ายวางดักไว้เพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดติดตาม แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ไว้ได้สำเร็จ
ชรบ.เล่านาทีโจมตีสุดอุกอาจ-ฮึกเหิม
นุดดิน แน ชรบ.ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตอนที่คนร้ายเข้ามาเขาก็เฝ้ามองอยู่ เพราะนั่งอยู่ในฐานเพื่อรอเปิดปอซอ (ละศีลอด) กับเจ้าหน้าที่คนอื่นที่เป็นมุสลิม โดยในฐานะนี้มีเจ้าหน้าที่มุสลิมหลายคน และยังเป็นลูกหลานคนพื้นที่ด้วย
จังหวะที่คนร้ายเข้ามานั้นเป็นเวลา 18.25 น. ใช้รถกระบะ2 คันเป็นของคนต่างถิ่น รถทั้งสองคันขับเข้ามาช้าๆ พร้อมกับส่งเสียงดัง เข้าใจว่าเป็นเด็กจากนอกพื้นที่เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อร่วมละศิลอดที่มัสยิด เพราะวันนั้นที่มัสยิดได้เชิญพี่น้องจากนอกพื้นที่ร่วมละศีลอดด้วย จึงไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก
จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น ทีแรกไม่รู้ว่ามาจากทิศทางไหน เพราะเข้าใจว่าเป็นเสียงประทัดที่เด็กๆในหมู่บ้านเล่นกันตามปกติ แต่เมื่อเงยขึ้นไปมองชั้น 2 บริเวณหน้าต่างของอาคารเรียน จึงเห็นหน้าต่างเปิด และเห็นคนร้ายยืนถือปืนหันหน้ามาทาง ฐานพร้อมรัวกระสุนเข้าใส่
“ตอนนั้นผมรีบหมอบลงกับพื้นพร้อมกับเพื่อน อส.ที่เสียชีวิต บรรยากาศมันวุ่นวายไปหมด มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนยิงแล้ว จะยิงตอบโต้ก็ไม่ได้เพราะในมือไม่มีปืน ได้แต่หมอบลงกับพื้นเท่านั้น คนที่อยู่ในฐานประมาณ 5 คนไม่มีใครยิงตอบโต้ได้เลย เพราะไม่มีปืน”
นุดดิน เล่าต่อว่า คนร้ายยิงรัวเข้าใส่ฐานประมาณ 5 นาที จากนั้นก็มีเพื่อน ชรบ.และเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้ามาช่วยยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป
ชรบ.อีกราย เล่าเสริมว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเกือบทั้งหมด แต่คนละอยู่ในอาการฮึกเหิม ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น รถที่ขับเข้ามาก็ขับช้าๆ ทุกคนไม่มีใครสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า คือเปิดหน้ามาให้เห็นๆ กันเลย
ขณะที่ ชรบ.ซึ่งร่วมยิงปะทะกับคนร้าย บอกว่า ขณะเกิดเหตุเขากำลังให้อาหารเป็ดอยู่ที่บ้าน ได้ยิงเสียงปืนจึงหยิบปืนบนบ้านแล้ววิ่งออกมาที่สามแยกโรงเรียนบ้านเกาะแลหนัง ได้พบกับเพื่อน ชรบ.อีกกว่า 10 คน จังหวะนั้นเองมองเห็นรถของคนร้ายพุ่งเข้ามา พวกเขาจึงหาที่หลบและยิงตอบโต้กับคนร้ายที่ยิงถล่มพวกเขาเช่นกัน
“โชคดีที่เราหาที่กำบังได้เร็ว ก็เลยยิงตอบโต้ได้ถนัดจนคนร้ายต้องหักรถหลบหนี แต่ผมกับเพื่อน ชรบ.ได้พยายามยิงยางรถจนยางระเบิดทั้ง 2 คัน ทำให้คนร้ายต้องทิ้งรถแล้ววิ่งหนีเข้าป่า”
คุณยายวอนอย่าทำลายความสงบบ้านเกาะแลหนัง
นางพาตีเมาะ เงาะ คุณยายซึ่งอายุมากกว่า 100 ปี บอกว่า คืนที่เกิดเหตุไม่เป็นอันทำอะไร จะเข้าห้องน้ำก็ถ่ายไม่ออกเพราะกลัวมาก เดินไปเดินมาทั้งคืน นอนก็นอนไม่หลับ กลัวไปหมด บอกลูกหลานทุกคนไม่ให้ไปไหน เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่นี่มานานมากแล้ว
“คนร้ายไม่น่ามาทำในพื้นที่ของเมาะเลย คนที่นี่อยู่กันดีๆ มาตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่มีใครชอบความขัดแย้งแบบนี้ ไปทำเขาทำไม ทุกคนก็รักตัวเอง ไม่มีใครหรอกที่จะเลือกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ที่พวกเขาต้องมาเจ็บและตายกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะเหตุจำเป็น จึงอยากขอให้หยุดเถอะ อยากให้ที่นี่สงบ ไม่ว่าที่จังหวัดไหนๆ เมาะไม่อยากให้เกิดการทะเลาะกัน ไม่อยากให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น อยากอยู่สงบๆ แบบที่ผ่านมา” นางพาตีเมาะ กล่าว
ยิงชาวบ้านล่อ จนท.ตรวจสอบ-บึ้มซ้ำ อส.ดับ 5
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ตลอด 3 วันที่ผ่านมายังมีอีกหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.2554 เวลา 03.00 น.มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้ายิง นายสมศักดิ์ งามแสง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/4 บ้านตือโละ หมู่ 7 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาสวนยางพาราบ้านซือเลาะห์ หมู่ 4 ต.เรียง ขณะกำลังกรีดยาง จากนั้นคนร้ายยังได้ราดน้ำจุดไฟเผาศพ และขโมยอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดของนายสมศักดิ์ไปด้วย
ต่อมาเวลา 08.30 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.รือเสาะ จำนวน 9 นาย กำลังเดินทางโดยรถกระบะ 2 คัน เพื่อไปร่วมตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายยิงนายสมศักดิ์ ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบจุดชนวนระเบิดถล่มรถของ อส.คันที่ขับตามหลัง ทำให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 5 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย
รายชื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย
1) อส.กิตติพร ช่วยรอด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 8 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ เสียชีวิต
2) อส.สุนันท์ มณีรัตน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/6 หมู่ 10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เสียชีวิต
3) อส.มะฮารี ลาเต๊ะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1 ต.บาตง อ.รือเสาะ เสียชีวิต
4) อส.ถวิล เหล่าดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เสียชีวิต
5) อส.ซุลกิฟลี ตาเยะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ เสียชีวิต
6) อส.อารีเพ็ญ ซีระ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊สปิคนิค ฝังไว้ใต้พื้นถนน จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่โดยลากสายเข้าไปในป่ายางพาราข้างถนน จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้านซือเลาะห์ หมู่ 4 ต.เรียง อ.รือเสาะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ระเบิดรถเก็บขยะที่ธารโต จนท.เจ็บ 5
เวลา 07.05 น.วันเดียวกัน ได้เกิดระเบิดขึ้นจากด้านในรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลคอกช้าง อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะแล่นอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สายล่าง (ช่วงระหว่างหน้าหน่วยบริการประชาชนบ้านคอกช้างถึงหน้าโรงเรียนบ้านโต) บริเวณสามแยกจุดกลับรถ เขตเทศบาลตำบลคอกช้าง หมู่ 7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต ทำให้เจ้าหน้าที่งานเก็บขยะของเทศบาลตำบลคอกช้างได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย
1.นายสมศักดิ์ แซ่อึ้ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ถนนเทศบาล 8 ต.แม่หวาด อ.ธารโต อาการสาหัส
2.นายสุรัตน์ ฟ้าอรุณ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถนนเทศบาล 3 ต.แม่หวาด อ.ธารโต อาการสาหัส
3.นายวิเชียร หวังเหมรา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ถนนเทศบาล 6 ต.แม่หวาด อ.ธารโต บาดเจ็บเล็กน้อย
4.นายยุทธการ ศรีอุทัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ถนนเทศบาล 5 ต.แม่หวาด อ.ธารโต บาดเจ็บเล็กน้อย
5.นายบุญส่ง พรหมจันทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลธารโต แต่ นายสมศักดิ์ กับ นายสุรัตน์ อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
สอบสวนทราบว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องซุกไว้ในถังขยะบริเวณหน้าศาลาทางลงท่าเทียบเรือคอกช้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่งานเก็บขยะของเทศบาลตำบลคอกช้างได้ไปเก็บขยะจากถังดังกล่าวและเทใส่รถขยะ จากนั้นรถขยะได้ขับไปตามถนนสายคอกช้าง-เบตงเพื่อไปเก็บขยะหน้าโรงเรียนบ้านโตอีกจุดหนึ่ง จังหวะนั้นคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่งานเก็บขยะของเทศบาลคอกช้างได้รับบาดเจ็บ 5 รายดังกล่าว และรถบรรทุกขยะยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม หมายเลขทะเบียน 80-4025 ยะลา ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มอีกลูกที่สะบ้าย้อยทหารพรานเจ็บ 3
เวลา 14.50 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ของกองร้อยทหารพรานที่ 4214 ขณะออกลาดตระเวนเดินเท้าอยู่บนถนนสาย 4072 ตรงข้ามมัสยิดสามัคคีศาสน์ บ้านมุยง บ้านย่อยของบ้านบ่อทอง หมู่ 4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ได้แก่ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ภูพิณ โจมรัมย์ อาการสาหัส และ อส.ทพ.ธีรพงษ์ ซื่อตรง ทั้งคู่สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4214 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ซุกซ่อนไว้ในเพิงพักริมทาง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.05 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายซุกรัน อีแต อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/1 บ้านต้นหยี หมู่ 7 ต.พะยา อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายซุกรันขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบท บ้านเกะรอ หมู่ 1 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.เวลา 06.10 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าริมทางหลวงหมายเลข 4077 บ้านบือราเป๊ะ หมู่ 7 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 2 ต้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ นอกจากนั้นคนร้ายยังได้โปรยตะปูเรือใบบนทางหลวงหมายเลข 4077 ช่วงบันนังสตา–ยะหา ด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงถล่มร้านคาราโอเกะที่สุคิรินเจ็บ 5
ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.2554 เวลา 19.40 น.คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้าและอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงถล่มร้านหนึ่งเดียวคาราโอเกะ ริมถนนสายสุคิริน–แว้ง ท้องที่หมู่ 6 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย
1) นายยุทธนา เขียวคา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน
2) น.ส.ผการัตน์ ทองมี อายุ 20 ปี เป็นชาว จ.ขอนแก่น
3) นายวรพจน์ เต็มภูมิ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 294 หมู่ 3 ต.สุคิริน อ.สุคิริน
4) นางเรณู กล้าศักดา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน
5) นายชาคริช กิจบุรี อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ทั้งนี้ หลังก่อเหตุคนร้ายได้วางวัตถุต้องสงสัยไว้ที่หน้าร้านด้วย ก่อนจะหลบหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องกระดาษ น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม จึงเก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 17.10 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายไม่ทราบชื่อ สวมกางเกงขายาวสีเทา-ดำ เสื้อยืดลายสก๊อต อายุประมาณ 30-35 ปี นอนในลักษณะคว่ำหน้าอยู่บริเวณที่ทิ้งขยะขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จอเบาะ บ้านตะลาฆอสะโต หมู่ 8 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพตามที่รับแจ้งจริง สภาพศพมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.บริเวณลำตัว 6 นัด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
บึ้มในสวนยางยังไม่เลิก-ชาวสวนวัย 66 ปีสังเวยอีกศพ
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค.เวลา 06.30 น. เกิดระเบิดภายในสวนยางพาราบ้านด่าน หมู่ 5 ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้ นายอิ่ม ศรีโชติยะกุล อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 4 ต.ควน อ.ปะนาเระ เสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอิ่ม พร้อมด้วย นางเอื้อน ศรีโชติยะกุล ภรรยา กำลังกรีดยางพาราอยู่ในสวนยางของตนเอง จากนั้นนายอิ่มได้เดินไปเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายนำมาฝังไว้บริเวณโคนต้นยาง ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนนายอิ่มเสียชีวิต โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบเป็นกับระเบิดแบบเหยียบ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบระเบิดฝังไว้อีก 2 ลูก จึงยิงทำลายได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-2 สภาพบ้านของผู้ใหญ่ฯเลาะ และซากรถกระบะที่ถูกเผา
3 รถกระบะที่คนร้ายจอดทิ้งไว้หลังก่อเหตุโจมตีฐานทหารพรานในท้องที่บ้านเกาะแลหนัง
4 เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคอกช้าง อ.ธารโต ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิด ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
อ่านประกอบ :
ดอเลาะ เซ็งมะสู ผญบ.หนังเหนียวแห่งตะโล๊ะเว วันนี้ที่พร้อมสู้เคียงข้างรัฐ...
http://south.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=2442&Itemid=86