การประชุมความร่วมมือ ระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ครั้งที่ ๑๖
การประชุมความร่วมมือ ระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ครั้งที่ ๑๖
การสร้างความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เป็นภารกิจที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดย กสม.ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกรอบความร่วมมือและการประสานงานอย่างกว้างขวางในเวทีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ คือ องค์การสหประชาชาติระดับภูมิภาค และระดับอนุภูมิภาค รวมทั้งสมัครเป็นสมาชิกสามัญขององค์กรความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ( Asia – Pacific Forum of National Human Rights Institutions : APF ) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖
APF เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนการก่อตั้งและการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (National Human Rights Institutions) ในภูมิภาค รวมทั้งการสร้างโอกาสให้สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศสมาชิก APF ได้ทำงานร่วมกันผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุมประจำปี การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้วยการฝึกอบรม การร่วมมือเป็นเครือข่าย การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้การทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนกับผู้เชี่ยวชาญของ APF รวมทั้งการพิจารณาประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญของภูมิภาค การกำหนดท่าทีร่วมกันในเวทีการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญ ตลอดจนการช่วยเหลือประเทศในภูมิภาคที่ต้องการจัดตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นอกจากนี้ APF ยังให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลและภาคประชาสังคมในภูมิภาค ให้มีบทบาทในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจุบัน APF มีสมาชิก ๑๗ ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย จอร์แดน มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ มัลดีฟส์ ศรีลังกา ปาเลสไตน์ ฟิลิปปินส์ กาตาร์ เกาหลีใต้ ติมอร์เลสเต้ และประเทศไทย โดย APF มีการประชุมใหญ่ทุก ๒ ปี และในปีนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APF ครั้งที่ ๑๖ ในระหว่างวันที่ ๖ – ๘ กันยายน ๒๕๕๔ ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ นับเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ เพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศสมาชิก APF ทั้ง ๑๗ ประเทศ รวมทั้งผู้แทนภาครัฐบาล องค์กรภาคประชาสังคมทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง จำนวนประมาณ ๒๐๐ คน ได้ปรึกษาหารือและแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก
สำหรับการประชุมในวันแรก (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นการประชุมปิดเฉพาะสมาชิก APF ( APF Forum Councilor Meeting) เพื่อพิจารณาระเบียบวาระทางด้านการบริหารและงบประมาณ รวมทั้งบทบาทของ APF ในเวทีการประชุมสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศต่างๆ หลังจากนั้นในวันที่ ๗ และ ๘ กันยายน ๒๕๕๔ จะเป็นการประชุมเปิดเพื่อให้ผู้แทนจากภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม และองค์การระหว่างประเทศ ได้มีโอกาสร่วมหารือกับสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศสมาชิก ภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม APF ครั้งที่ ๑๖ ได้แก่ “สิทธิในการพัฒนา” ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ ๒๕ ปี ของการรับรองปฏิญญาว่าด้วยสิทธิในการพัฒนาของสหประชาชาติ
พิธีเปิดการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๔ โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเวศ วะสี เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อว่าด้วย “สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรี และความเท่าเทียมของบุคคล” และในวันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๔ ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด จะปาฐกถานำเรื่อง “สิทธิในการพัฒนา : สิทธิมนุษยชนและความเป็นธรรมทางสังคม”
นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดการประชุมคู่ขนานสำหรับภาคประชาสังคม ใน ๒หัวข้อหลัก คือ ๑) เรื่องอัตลักษณ์ทางเพศและเพศวิถี : สถานการณ์ในภูมิภาคและบทบาทหน้าที่ของรัฐบาล สถาบันสิทธิมนุษยชน และภาคประชาสังคม ๒) การพัฒนาและผลเกี่ยวเนื่องกับสิทธิมนุษยชน ใน ๓ เรื่อง ได้แก่ เรื่องผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนและสิทธิในการพัฒนา เรื่องบทบาทหน้าที่ของสื่อและการพัฒนา และเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนา ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีให้ภาคประชาสังคมทั้งของไทยและต่างประเทศ ผู้แทนสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศสมาชิก APF และผู้แทนรัฐบาล ได้เข้าร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ นำเสนอข้อคิดเห็นและมุมมองที่สะท้อนท่าทีของภาคประชาสังคม ต่อประเด็น “สิทธิในการพัฒนา” อันเป็นประเด็นหลักของการประชุม APF ครั้งที่ ๑๖ นี้
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ