“คลัง” เตรียมเสนอ ครม. เพิ่มเงินปริญญาตรี 15,000 บาท
กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. เพื่อปรับรายได้บุคลากรภาครัฐ วุฒิปริญญาตรีขั้นต่ําต้องรับ 15,000 บาท พร้อมทั้ง พิจารณาให้ปรับกลุ่มที่ต่ำกว่าปริญญาตรีด้วย
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการ ปรับรายได้ให้แก่บุคลากรภาครัฐ โดยเฉพาะที่ผู้จบปริญญาตรีเมื่อเข้ามาทํางานในระบบราชการควรมีรายได้ขั้นต่ำอย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือน ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กํากับดูแลกรมบัญชีกลาง จึงได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางไป ศึกษาพิจารณากําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และนําเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป
นายวิรุฬ กล่าวว่า โดยหลักเกณฑ์ทั่วๆ ไป ที่กรมบัญชีกลางได้เสนอมาก็จะเป็นการกําหนดกลุ่มบุคลากรภาครัฐ ที่จะได้รับการปรับเงินเพิ่มในครั้งนี้ซึ่งอยู่ในอํานาจการพิจารณาของกระทรวงการคลัง และอัตราเงินเพิ่มที่จะได้รับตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มฯ โดยแนวทางจะดําเนินการจ่ายเป็นเงินช่วยค่าครองชีพ (พ.ช.ค.) ซึ่งจะสามารถดําเนินการได้ทันทีตามอํานาจ ของกระทรวงการคลัง โดยการแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลัง โดยกลุ่มบุคลากรภาครัฐที่จะพิจารณาปรับเพิ่มรายได้ครั้งนี้จะครอบคลุม 5 กลุ่ม คือ ข้าราชการ ลูกจ้างประจํา ลูกจ้างชั่วคราวที่จ้างจากเงินงบประมาณ พนักงานราชการ และทหารกองประจําการ ที่อยู่ในอํานาจการพิจารณาของกระทรวงการคลังโดยการแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลัง และตามฐานข้อมูลบุุคลากรภาครัฐจากระบบการเบิกจ่ายเงินเดือนค่าจ้างที่ กรมบัญชีกลางกํากับดูแลอยู่นั้น
ปัจจุบันมีบุคลากรภาครัฐที่มีเงินเดือนและค่าจ้างต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน จํานวน 649,323 คน แบ่งเป็นตําแหน่งที่ใช้วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป จำนวน 346,365 คน ต่ำว่าปริญญาตรีโดยรวมถึงทหารกองประจําการจํานวน 302,958 ราย โดยผู้ที่วุฒิปริญญาตรีขึ้นไปจะได้รับเงิน พ.ช.ค. เพิ่มรวมเงินเดือนเป็น 15,000 บาท สําหรับผู้ที่วุฒิต่ำกว่าปริญญาตรียังคงได้รับเงิน พ.ช.ค. 1,500 บาท เช่นเดิม โดยจะขยายเพดานอัตราเงินที่ได้รับเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้กลุ่มที่ได้รับเงินเดือนค่าจ้างและทหารกองประจําการที่ได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงประจํา ไม่ถึง 9,000 บาท ก็จะได้รับเงิน พ.ช.ค. เพิ่มรวมกันให้ได้รับเป็น 9,000 บาทด้วย โดยจะใช้เงินงบประมาณประมาณปีละ 24,533 ล้านบาท ซึ่งได้มีการศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ แล้วไม่เป็นปัญหา
“การปรับรายได้ดังกล่าวกระทรวงการคลังได้เสนอแนวทางโดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้บุคลากรภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพและเป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจดียิ่งขึ้น โดยคาด ว่าจะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม 2555 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่บุคลากรภาครัฐ สําหรับกลุ่มอื่น ๆ ได้มอบหมายให้ กรมบัญชีกลางไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป” นายวิรุฬ กล่าว
