ป.ป.ช. เล็งขยายเพิ่ม 55 ตำแหน่ง สกัดผลประโยชน์ทับซ้อน เน้นนักการเมืองท้องถิ่น
ป.ป.ช. ขยายการบังคับใช้กฎหมาย เพิ่มเติม 55 ตำแหน่ง ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่งสำคัญ-ระดับสูง กระทำการที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์
วันที่ 2 กันยายน นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาการบังคับใช้บทบัญญัติมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เปิดเผยถึงผลการศึกษาวิเคราะห์การกำหนดตำแหน่งที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามความในมาตรา 100 เพิ่มเติม ว่า ขณะนี้ได้เสนอให้มีการขยายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ห้ามมิให้ดำเนินการตามมาตรา 100 ออกไปอีก 55 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองในระดับท้องถิ่น เช่น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเทศบาลเมืองพัทยา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ฯลฯ
สำหรับในส่วนของข้าราชการประจำนั้น นายวิชัย กล่าวว่า ยังไม่มีการขยายการบังคับใช้บทบัญญัติตามมาตรา 100 ดังกล่าว เนื่องจากมีข้อถกเถียงกันมากเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่อาจไปจำกัดสิทธิ์ของคู่สมรสมากเกินไป แต่ในเบื้องต้นมีข้อเสนอว่า น่าจะบังคับใช้ในตำแหน่งสำคัญ เช่น ปลัดกระทรวง ผู้กำกับการตำรวจ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 55 ตำแหน่งดังกล่าว จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และประกาศในราชกิจจานุเษกษาถึงจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายวิชัย กล่าวด้วยว่า ขยายการบังคับใช้บทบัญญัติเรื่องการห้ามการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ให้ครอบคลุมผู้ใช้อำนาจรัฐในตำแหน่งสำคัญและตำแหน่งระดับสูงอย่างทั่วถึงนั้น นับเป็นแนวทางที่สอดคล้องกันนโยบายในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา