‘ชวนนท์’ เล็งแฉ รัฐบาลชุดไหนมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล

ว่าที่โฆษกพรรค ปชป.ยัน ‘สุเทพ-ซกอาน” เจอกันที่คุณหมิง คุยกันโดยบังเอิญไม่ได้คุยหลังฉากตามที่ถูกกล่าวหา ย้ำชัดมีหลักฐานแจงได้ ท้ารมว.บัวแก้วอย่่าหยุดค้นหาคำตอบจากกัมพูชา

จากกรณีที่องค์กรปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม เดินทางไปเจรจาลับผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ที่ฮ่องกงและคุนหมิง ประเทศจีน จน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยจึงได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่า มีความเป็นมาอย่างไร

ล่าสุด วันที่ 2 กันยายน เมื่อเวลา 15.40 น. ณ ห้องคอนเวนชั่น จ.พิษณุโลก นายชวนนท์ โกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีมีการกล่าวพาดพิงนายสุเทพ  มีการประชุมลับที่ประเทศฮ่องกงว่า นายสุเทพได้ออกมาชี้แจงกรณีปัญหาไทย-กัมพูชาแล้ว ซึ่งในช่วงนั้นนายอภิสิทธิ์ เห็นว่า นายสุเทพมีบทบาทที่เหมาะสมในการเจรจากับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยเป็นการพูดคุยพบปะกันธรรมดาไม่ได้เป็นการประชุมลับอย่างที่เป็นข่าว จากนั้นได้มีการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษานายฮุนเซน ตนเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่รู้เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลและการยกเลิกเอ็มโอยูฉบับปี 44

นอกจากนี้มีผู้กล่าวอ้างว่านายสุเทพเดินทางไปพบนายซกอานรองนายกฯกัมพูชาที่คุนหมิง ประเทศจีนนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ในความเป็นจริง นายสุเทพได้ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรในงานประชุม ซึ่งนายซกอานได้ถูกเรียนเชิญไปเป็นวิทยากรงานเดียวกัน และไม่ได้เป็นการพูดคุยหลังฉาก แต่เป็นการพูดคุยกันโดยบังเอิญในวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งมีหลักฐานที่สามารถชี้แจงได้ อยากจะทำความเข้าใจกับรมว.ต่างประเทศว่า พรรคปชป.ไม่มีผลประโยชน์ซ้อนในเรื่องดังกล่าวและขอท้าทายรวม.ต่างประเทศที่จะมีการไปค้นหาในเรื่องนี้และไปหาคำตอบจากกัมพูชาและอย่าหยุดทำให้เต็มที่เพื่อผลประโยชน์ทางทะเล

“ในขณะนั้นเคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศก็จะทำเช่นกัน ซึ่งจะชี้ว่า เอ็มโอยู2544 มีข้อบกพร่องอย่างไร ทำไมถึงมีการยกเลิก และจะออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลชุดไหนที่มีผลประโยชน์ซับซ้อนทางทะเลกันแน่”