ฟันธง จำนำข้าวเอื้อทุจริต จี้รบ.ยิ่งลักษณ์ ทบทวน
ป.ป.ช. แถลงยันผลงานวิจัยที่เคยทำไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เสนอรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขอให้เปลี่ยนจากระบบรับจำนำเป็นประกัน คุ้มกว่า ‘เมธี ครองแก้ว’ ชี้จำนำสุ่มเสี่ยงทุจริตมาก
วันที่ 6 กันยายน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจของสังคม ณ ห้องประชุมผู้บริหาร อาคาร 1 ชั้น 3 สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบุรี (สนามบินน้ำ) จังหวัดนนทบุรี
นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวถึงข้อเสนอของคณะอนุุกรรมการศึกษามาตรการแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร เพื่อป้องกันการทุจริตว่า ได้มีข้อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช พิจารณาใน 3 ประเด็น 1.การแทรกแซวงราคาพืชผลทางการเกษตรด้วยการรับจำนำ ด้วยผลการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นมาก ทั้งการบิดเบือนกลไกตลาด มีข้าวในสต๊อกจำนวนมาก และเสียค่าใช้จ่ายในการสต๊อกมหาศาล รวมทั้งคุณภาพข้าว ที่เก็บไว้และระบายออกไม่ทัน เสี่ยงคุณภาพข้าวตกต่ำ ที่สำคัญคือมีปัญหาในการทุจริตในทุกขั้นตอน ของการกระบวนการจำนำ ขณะเดียวกันผู้ได้รับประโยชน์จากนโยบายรับจำนำ คือ คนเพียงบางกลุ่ม อีกทั้งไม่ครอบคลุมเกษตรกรอย่างทั่วถึง
“2.การเปลี่ยนแปลงนโยบายการแทรกแซงจากจำนำไปเป็นการประกันราคา สามารถลดช่องทางการทุจริตได้ดีระดับหนึ่ง ประโยชน์จะตกกับเกษตรกรอย่างทั่วถึง กลไกตลาดไม่ถูกบิดเบือน และ3.การที่รัฐบาลเร่งรัดทำนโยบายจำนำ นั้น ในอดีตพบว่าเป็นช่องทางในการทุจริต และสร้างผลเสียหายจำนำมาก ดังนั้น ป.ป.ช.ในฐานะองค์กรตรวจสอบใช้อำนาจตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 19 (11) ยืนยันมติ พร้อมเสนอรัฐบาล ให้เปลี่ยนจากระบบรับจำนำเป็นประกันตามผลการศึกษาวิจัย”นายเมธี กล่าว และว่า การดำเนินนโยบายในทำนองอย่างนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะสนับสนุนต่อไป คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงยืนยันมติที่ เคยทำไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
สำหรับผลการศึกษาโครงการรับจำนำข้าวในอดีตนั้น นายเมธี กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า พบการจำนำ มีความสูญเสียในหลากหลายรูปแบบ และมีการทุจริต ส่วนรัฐบาลจะหาทางแก้ไข หรือยืนยันเดินหน้ารับจำนำต่อก็แล้วแต่การตัดสินใจ
เมื่อถามว่า หากเกิดทุจริตขึ้นมาในอนาคต นายเมธี กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ เพราะป.ป.ช. มีผลการศึกษาออกมาแล้ว และเคยเสนอให้คณะรัฐมนตรีชุดก่อนแล้ว หากรัฐบาลต้องการดูสามารถขอดูได้ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนโยบายรับจำนำข้าวจะเริ่มในเดือนตุลาคม เราจึงอยากส่งข้อมูลให้ทุกวิถีทาง ส่วนรัฐบาลจะทำได้หรือไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล
และเมื่อถามว่า รัฐบาลบอกว่าจะสามารถควบคุมการทุจริตให้ได้ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า หากโครงการรับจำนำข้าวคราวนี้ รัฐบาลทำได้ ก็จบ แต่หากเกิดการทุจริตขึ้นรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ เรามีหน้าที่บอกถึงปัญหา และบอกว่า มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เพราะมีตัวเลขความสูญเสียจากโครงการจำนำข้าวเมื่อปี 2547 ถึง 2548 พบว่า มีเกือบ 2 หมื่นล้านต่อปี
ขณะที่นายกล้านรงค์ จันทิก กล่าวว่า ข้อเสนอนี้ได้เคยเสนอไปตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ป.ป.ช จึงเสนอความเห็นนี้ไปยังรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพื่อทราบถึง และจะเห็นชอบด้วยหรือไม่เห็นชอบด้วยอย่างไร และหากรัฐบาลไม่ตอบรับข้อเสนอ ก็ไม่มีอะไร เราแค่เสนอมาตรการตามหน้าที่เท่านั้น
