สานต่อเจตนารมณ์ “ดุสิต” ต้านคอร์รัปชั่น-ลดความเหลื่อมล้ำ

“หอการค้าไทย” แถลงแผนทำงาน ยันไม่ทิ้งทุกภารกิจที่ “ดุสิต” ขับเคลื่อนไว้ ต่อต้านคอร์รัปชั่น-เศรษฐกิจเพื่อความมั่นคง-1 ไร่ 1 แสน พร้อมร่วมมือ ป.ป.ช. ใช้กม.ใหม่ดูแลความโปร่งใสจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ทำผิดรายใหญ่
วันที่ 8 กันยายน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำโดยนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวถึงแผนการทำงานยืนยันและสานต่อเจตนารมณ์ภายหลังที่ "นายดุสิต นนทะนาคร" ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานหอการค้าไทยได้เสียชีวิตลงในวัย 64 ปี ของวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การต่อต้านคอร์รัปชั่น และลดความเหลื่อมล้ำ เป็นโครงการที่ทางหอการค้าไทยดำเนินการกันเป็นทีม ภายใต้การนำของประธาน (นายดุสิต) จึงสามารถสานต่องานได้ตามเนื้อหาสาระ
“สำหรับตำแหน่งผู้นำองค์กรหอการค้าฯ ทางกรรมการมีแผนสืบทอดทายาทอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังปรึกษาหารือถึงรายละเอียดในการจะจัดตั้งกองทุน หรือรูปแบบอื่นเพื่อเป็นที่ระลึกให้นายดุสิต โดยจะประกาศให้ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 กันยายนนี้ ทางหอการค้าฯ และภาคีมุ่งมั่นที่จะสานต่อภารกิจงานต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่สื่อมวลชนในการให้ความร่วมมือกับหอการค้าฯ ต่อไป”
ขณะที่นายวิชัย กล่าวถึงเรื่องเร่งด่วน และสิ่งที่นายดุสิตยังเป็นห่วง มีทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ 1.กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชั่น 2.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
ของประเทศเรื่องความมั่นคง 3.การลดความเหลื่อมล้ำ (โครงการ 1 ไร่ 1 แสนและโครงการ 1 บริษัท 1 ชุมชน) ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญมาก และริเริ่มการทำงานไว้ที่จังหวัดขอนแก่น 4.การสร้างความเข้มแข็งให้กับหอการค้าในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัดให้มีความทัดเทียมกับส่วนกลาง จะขับเคลื่อนไปภายใต้การทำงานที่เป็นทีมอย่างที่นายดุสิตเคยวางแนวทางไว้
“นายดุสิต เป็นทั้งสัญลักษณ์และพลังในการขับเคลื่อนต่อต้านคอร์รัปชั่น แม้เราจะเสียใจที่ท่านจากไปแต่จะไม่ปล่อยให้เจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่ริเริ่มไว้อย่างกล้าหาญต้องสูญเปล่าไป สิ่งที่เป็นรูปธรรม ขณะที่เราได้ประสานงานกับ ป.ป.ช. ที่เพิ่งมีกฎหมายใหม่ออกมา ซึ่งหากได้รับการปฏิบัติใช้อย่างเต็มรูปแบบก็จะเป็นประโยชน์มากในการลดและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นได้มากกว่าในอดีต ที่ลดและจัดการได้แต่ผู้ทำผิดรายเล็ก ปลาซิว ปลาสร้อย กฎหมายใหม่ตัวนี้จะจัดการกับปลาตัวใหญ่ๆ ได้ และสามารถกันพยานให้ออกมาให้การเพื่อเป็นประโยชน์แก่รูปคดีได้”
นายวิชัย กล่าวถึงกฎหมายใหม่ ป.ป.ช.ว่า จะป้องกันการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐ ในโครงการที่เกิน 5 แสนบาทจะต้องเปิดเผยและโปร่งใส ไม่ว่าการคำนวณราคากลาง ทำบัญชีสรรพากรให้การตรวจสอบต่างๆ สะดวกขึ้น แต่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสาธารณูปโภค รวมไปถึงการจัดซื้อแท็บเล็ต พีซี การทำประชาสัมพันธ์ จัดซื้อครุภัณฑ์ ที่เกิน 5 แสนบาทจะต้องปฏิบัติตามนี้ทั้งหมด รวมถึงการจ่ายเงินที่เกิน 3 หมื่นบาทห้ามใช้เงินสด ฉะนั้น ถ้าใครที่คิดจะจ่ายใต้โต๊ะคงทำได้ยากขึ้น
“หอการค้าไทยและภาคีเครือข่ายจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทาง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวมทั้งกำลังจะทำความร่วมมือกับ สตง. เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่อต้านคอร์รัปชั่นอย่างเป็นรูปธรรม โดยในวันที่ 14 กันายนนี้ จะจัดงานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นประกาศการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่โดยมี 30 องค์กรและตัวแทนจากทั่วประเทศมาร่วมและให้สัตยาบัน
