พบผิดกว่า 2 พันราย สปก.ในวังน้ำเขียว
ส.ป.ก.ตรวจวังน้ำเขียวเสร็จแล้วพบผู้ ใช้ที่ดินผิดระเบียบอื้อกว่า 2,000 ราย ส่วนจำนวนรีสอร์ตเคาะตัวเลขแล้วเหลือ 112 จากเดิม 120 ราย เพราะมีชื่อซ้ำกัน ยืนยันงานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะขั้นตอนตามกฎหมายเริ่มต้นแล้ว หยุดไม่ได้ เดี๋ยวเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการทำงานร่วมกับกรมป่าไม้คาดใช้เวลาอีกยาว เพราะคุยกันแล้วยังไม่ได้ข้อสรุป
ความคืบหน้าปัญหาการบุกรุกพื้นที่ “วังน้ำเขียว” พื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่า ส.ป.ก.ได้ตรวจสอบที่ดินของ ส.ป.ก.ที่จัดสรรให้เกษตรกร 6,039 ราย จำนวนที่ดิน 139,300 ไร่ ใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เสร็จสิ้นแล้ว พบว่ามีผู้ใช้ที่ของ ส.ป.ก.ผิดประเภทอย่างชัดเจน ได้แก่ รีสอร์ต โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมทั้งสิ้น 112 แห่ง ลดลงจากเดิมที่พบมี 120 แห่ง เนื่องจากการลงพื้นที่สำรวจรอบ 2 พบว่ามีรายชื่อซ้ำกัน 8 แห่ง มีเกษตรกรใช้ที่ผิดระเบียบทั้งสิ้น 2,087 ราย หรือ 1 ใน 3 ของทั้งหมด รายละเอียดทั้งหมดนี้ ส.ป.ก.กำลังเร่งดำเนินการจัดกลุ่มผู้กระทำผิดออกเป็น 4 กลุ่ม ตามลักษณะความผิด เนื่องจากมีขั้นต้อนการดำเนินการแตกต่างกัน และจะรายงานให้นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทราบก่อนวันที่ 30 ก.ย.นี้
สำหรับรีสอร์ต 21 แห่งแรก ที่ครบกำหนดต้องมารายงานตัวกับ ส.ป.ก. ขณะนี้มี 5 รายมาติดต่อขอขยายเวลาการเข้าพบเจ้าหน้าที่ อีก 12 รายมาติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว มี 4 รายที่ยังเงียบเฉย และยังพบว่ารีสอร์ต 21 แห่ง มีเพียง 1 แห่งเท่านั้น ที่จดทะเบียนประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่เหลือเป็นรีสอร์ตเถื่อนทั้งหมด ส่วนอีก 91 รีสอร์ตที่ตรวจพบในครั้งหลังนั้น จะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้ รมว.เกษตรฯทราบก่อนจึงจะออกหนังสือเรียกให้มาพบเจ้าหน้าที่ต่อไป ยืนยันว่างานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว กระบวนการทางกฎหมายก็เริ่มต้นแล้ว ถ้าเราไม่ทำ ไม่ปฏิบัติงานต่อ เจ้าหน้าที่ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ส.ป.ก. จึงจะดำเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยในยุคของตนให้ได้ ส่วนเรื่องการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินวังน้ำเขียวร่วมกับกรมป่าไม้ ผมคิดว่าต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะหลายเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุปตรงกัน เช่น เรื่องแผนที่ ที่กรมป่าไม้ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาตรวจทานแนวเขตใหม่ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นประมาณเดือน ก.พ.ปีหน้า
นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า รีสอร์ต 4 แห่ง ที่ยังไม่ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ขณะนี้คณะกรรมการ ส.ป.ก.นครราชสีมาได้ส่งหนังสือแจ้งให้รื้อถอนภายใน 45 วันแล้ว หากยังไม่ดำเนินการตามที่มีคำสั่ง ส.ป.ก.จะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการ เพื่อฟ้องร้องให้ศาลมีคำสั่งขับไล่ และเรียกค่าเสียหายของ ส.ป.ก.ต่อไป ส่วนผู้ที่ใช้ที่ ส.ป.ก.ผิดระเบียบประเภทอื่นๆ ที่มีความผิดน้อยกว่า ก็จะถูกดำเนินการไปตามระเบียบและกฎหมาย ยืนยันว่า ส.ป.ก.ไม่มีแนวคิดจะผ่อนผันให้นำที่ ส.ป.ก.ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ปล่อยให้เช่า หรืออนุโลมให้ประกอบกิจการอื่น คงไม่มีอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันมีคนที่ได้รับผลกระทบทยอยออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยนางวนิดา ศรีวรมย์ อายุ 63 ปี เจ้าของภัตตาคารไทยนคร อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา บอร์ดของหอการค้าไทย-อเมริกันแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เป็นพยาบาลและเดินทางไปทำงานที่สหรัฐฯหลายสิบปี ได้กลับมาเยี่ยมบ้านทุกปี เมื่อประมาณปี 2537 ได้รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นของ อ.วังน้ำเขียว จนปี 2540 ได้ไปเที่ยวที่ อ.วังน้ำเขียว นักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวได้บอกว่ามีที่ดินจะขาย 100 ไร่ ไม่มีโฉนดหรือ สปก. เป็นที่เอกสารภบท.หลังจากไปดูอยู่ 2-3 ครั้ง ก็ตกลงซื้อราคาไร่ละ 5 หมื่นบาท จ่ายเงินไปทั้งหมด 5 ล้านบาท โดยมี อบต. กำนัน และนายอำเภอรับทราบ ตอนที่ซื้อนั้นเป็นป่าเสื่อมโทรม จากนั้นซื้อกล้าไม้และต้นไม้มาปลูกนับพันต้น พร้อมกับสร้างบ้านไว้ 1 หลัง ให้เพื่อนใช้เป็นที่นั่งวิปัสสนาและช่วยเฝ้าบ้าน ขณะเดียวกันก็ปลูกสวนผสมและผลไม้เกือบเต็มพื้นที่ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปบอกว่าบุกรุกป่าสงวน กระทั่งปลายเดือน ส.ค. เพื่อนที่เฝ้าบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่า เจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าบุกรุกป่าและนำป้ายไปติดไว้หน้าบ้าน จึงรวบรวมเอกสารหลักฐานรีบกลับมาเมืองไทย ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียวเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ให้ปากคำพร้อมกับมอบหลักฐานทั้งหมดรวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นที่ขายที่ดินให้ก็ไปให้การเป็นพยานให้ด้วย ตอนซื้อก็ทำกันที่ที่ว่าการอำเภอ มี อบต. กำนัน นายอำเภอรับทราบ
“เมื่อไปขอบ้านเลขที่และขอไฟฟ้าก็ได้รับอนุญาต จึงคิดว่าเป็นที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหน่วยราช การรับรู้และไม่คัดค้าน แต่กลับถูกแจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนทั้งๆที่ตอนซื้อเป็นป่าเสื่อมโทรม เราไปปลูกต้นไม้จนเขียวชอุ่ม ดิฉันอยู่อเมริกายังรีบมาพบตำรวจ อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาลช่วยหาทางออกและหาคนรับผิดชอบ เชื่อว่ามีคนประสบปัญหาอย่างดิฉันจำนวนมาก เราบริสุทธิ์แต่กลับถูกกล่าวหา เสียทั้งเงินและชื่อเสียง เสียความรู้สึก” นางวนิดากล่าว
ที่มาจาก :

