เปิดพิมพ์เขียวประเมินผลสำเร็จ รบ.ประยุทธ์ -"วิษณุ" ชงครม.เห็นชอบแล้ว
เปิดพิมพ์เขียวประเมินผลสำเร็จรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผย "วิษณุ" ชงครม.เห็นชอบแล้ว มุ่งสองประเด็นหลัก ภารกิจงานตามความคาดหมายประชาชน ดำเนินงานตามนโยบาย 11 ข้อ พร้อมขับเคลื่อนกม. 63 ฉบับ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานเรื่องการประเมินผลสำเร็จของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมรับทราบ
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ความคาดหมายของประชาชน ซึ่งประกอบด้วย
-ปัญหารากหญ้า เช่น ปัญหาปากท้อง ปัญหาความสงบเรียบร้อย ปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
-วาระแห่งชาติ เช่น การมีธรรมาภิบาล การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น การปฏิรูปด้านต่างๆ การสร้างความปกครอง
2. การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล 11 ด้าน ที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.57 ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนโดย
-แผนและยุทธศาสตร์ เช่น ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางทะเล แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แผนป้องกันการทุจริตระยะที่ 2
-กระทรวงต่างๆ
-มาตรการทางกฎหมาย ซึ่งตามนโยบายรัฐบาล 11 ด้าน มีกฎหมายที่ต้องขับเคลื่อน จำนวน 63 ฉบับ
(ดูรายละเอียดในเอกสารประกอบท้ายข่าว)
เบื้องต้น ครม.พิจารณาแล้วลงมติรับทราบตามที่ นายวิษณุ รายงาน และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งตรวจพิจารณาร่างกฎหมายให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา
ในกรณีการนำเสนอร่างกฎหมายที่เป็นนโยบายรัฐบาล ต่อ สนช.ให้ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามร่างกฎหมายชี้แจงต่อสนช.ด้วยว่า ร่างกฎหมายนั้นเป็นกฎหมายตามนโยบายรัฐบาลด้านใด เพื่อสนช.จะได้ดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายนั้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ส่วนราชการเสนอร่างกฎหมายที่ไม่อยู้ในนโยบายรัฐบาลได้ โดยให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาจัดลำดับความสำคัญร่างกฎหมายที่ไม่อยู่ในนโยบายรัฐบาล หลังร่างกฎหมายที่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล
พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนากฎหมายรับไปพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยค้ำประกันและจำนองตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2557 ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยให้เชิญผู้แทนธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาด้วยหากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติดังกล่าว ให้ดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ และเสนอให้ครม.พิจารณาต่อไป