ภาคีต้านคอร์รัปชั่น ผนึกพลังครั้งใหญ่ 25 ก.ย.ประกาศสงคราม เชิญ 'ปู-มาร์ค' ร่วม

ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น สานต่อเจตนารมณ์ “ดุสิต” กำหนดวันดีเดย์ จัดงานรณรงค์ครั้งใหญ่ 'ทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ' เตรียมเชิญนายกฯ อดีตนายกฯ  ภาคเอกชน เยาวชน ศิลปิน ร่วมแสดงพลัง พร้อมกันทั่วประเทศ

วันที่ 14 กันยายน ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) แถลงข่าวจัดงานรวมพลังรณรงค์ “ต่อต้านคอร์รัปชั่น” ณ ห้องประชุมสยามกัมมาจล 1 อาคาร SCB Park โดยมี คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ที่ปรึกษาภาคีเครือข่ายฯ นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายเกรียงไกร เธียรนุกุล สภาอุตสาหกรรม พร้อมทั้งตัวแทนเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ตัวแทนศิลปิน เยาวชน และเครือข่ายร่วมงาน

คุณหญิงชฎา กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จะขับเคลื่อนการทำงานต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยจะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ของภาคีเครือข่ายฯ ในการเดินรณรงค์รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น วันที่ 25 กันยายนนี้ และได้เชิญตัวแทนภาครัฐ นำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมถึงผู้แทนภาคเอกชน ประชาชน สื่อมวลชนและศิลปินมาร่วมในการแสดงพลังและกล่าวคำปฏิญาณต่อต้านคอร์รัปชั่นร่วมกัน

ขณะที่นายสมพล กล่าวในฐานะประธานคณะทำงานสรรหาประธานคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นแทนนายดุสิต นนทะนาคร ถึงการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานภาคีเครือข่ายฯ แทนนายดุสิต ว่า ทางภาคีเครือข่ายฯ 

พร้อมสานต่อการทำงานต่อต้านคอร์รัปชั่นเพื่อสร้างการตื่นตัวและตระหนักในปัญหาคอร์รัปชั่นต่อไป โดยการคัดเลือกประธานภาคีเครือข่ายฯ คนใหม่ จะไม่เป็นการสรรหาแบบสอบแข่งขัน ต้องเป็นคนที่สมัครใจมาทำงาน ด้วยความเสียสละ มุ่งมั่น พร้อมจะเผชิญกับอุปสรรค ซึ่งเชื่อว่าใน 5 องค์กรที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายฯ จะมีคนที่พร้อมและเต็มใจมารับหน้าที่นี้

“ปัจจุบันปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยเป็น 7 ปัญหาต้นๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ก็ให้ความสำคัญประกาศไว้เป็นนโยบายหลักของการทำงาน ทางภาคีเครือข่ายฯ เห็นความสำคัญและจำเป็นว่า ภาครัฐควรเข้ามาร่วมในการขับเคลื่อนด้วย”

ด้านนายวิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางภาคีเครือข่ายฯ ขับเคลื่อนการทำงานทั้งปราบปราม ป้องกันและปลูกฝังจิตสำนึกของคนทั้งชาติให้ตรงกันว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ทั้งนี้จากการศึกษาการปราบปรามคอร์รัปชั่น “ฮ่องกงโมเดล”พบว่า ภาครัฐ โดยรัฐบาลและการเมืองจะต้องเข้ามาร่วม มุ่งมั่น ป้องกันและปราบปรามอย่างแท้จริง

 “ทางภาคีเครือข่ายฯ ได้เชิญประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และให้กระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ให้ร่วมจัดงานอย่างพร้อมเพรียงกันในวันนั้น ให้ทั่วประเทศเห็นพ้องกันว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ”