คปก.หนุนจังหวัดจัดการตนเอง หวังใช้กม.เปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ

พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร นำร่องจังหวัดจัดการตนเอง คปก.เตรียมหนุนหาแนวทางดำเนินการร่วมกัน ขับเคลื่อนพร้อมสภาพัฒนาการเมืองและสปร.
วันที่ 15 กันยายน 2554 คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จัด “โครงการรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูปกฎหมาย ด้านการเมืองการปกครอง และการกระจายอำนาจ”เพื่อให้ภาคประชาสังคมได้เสนอแนะเกี่ยวกับการเสนอกฎหมายหรือผลักดันกฎหมายในความรับผิดชอบเกี่ยวกับด้านการเมืองการปกครองและการกระจายอำนาจ ณ โรงแรมที เค พาเลซ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ค้างการพิจารณา ด้านการเมืองการปกครอง และการกระจายอำนาจ จำนวน 6 ฉบับ โดยร่างพระราชบัญญัติที่ได้บรรจุระเบียบวาระเพื่อรอการพิจารณานาวาระที่หนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ ร่างพ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ... (คณะรัฐมนตรี ผู้เสนอ), ร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ...(คณะรัฐมนตรี ผู้เสนอ), ร่างพ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ... (คณะรัฐมนตรี ผู้เสนอ), ร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์กรบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ... ) พ.ศ. ... (นางสุธีรา จิตรานนท์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 40,542 คน ผู้เสนอ), ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ... (นายธานี เทือกสุบรรณ กับคณะ ผู้เสนอ) และร่างพ.ร.บ.ที่บรรจุระเบียบวาระเรื่องเสนอใหม่ของสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ... (นายถวิล ไพรสนธ์ กับคณะ ผู้เสนอ) นอกจากนี้ยังมีร่างพ.ร.บ.ที่ภาคประชาชนเป็นผู้จัดทำ จำนวน 1 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร พ.ศ. ...
นายทนงศักดิ์ ทวีทอง จากสมาคมสันติบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความล่าช้ามานานแล้ว ไม่ได้รับการผลักดัน โดยปัญหาที่สำคัญคือ รัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจนในส่วนของท้องถิ่น ไม่มีการเขียนในเรื่องของการกระจายอำนาจ พูดแต่เรื่องประชานิยมเป็นส่วนใหญ่
“มุ่งแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งไม่ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง การเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่น มีความห่างไกลกันมาก ซึ่งถ้ามีการประสานงานการบริหารจัดการจะสามารถดำเนินการได้เร็ว และไม่ว่าจะเขียนกฎหมายออกมาลักษณะใดก็ตาม หากประชาชนยังไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกด้วยว่า ในที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารส่วนท้องถิ่น โดยปัญหาสำคัญคือการรวมศูนย์อำนาจของภาครัฐ โดยท้องถิ่นไม่ได้มีการบริหารจัดการด้วยตนเอง และการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงเรื่องงบประมาณ ที่ไปรวมอยู่ที่อำนาจด้านบน 75% และลงสู่ท้องถิ่นเพียง 25% ซึ่งถ้ากลับกันจะทำให้ท้องถิ่นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ในที่ประชุมให้ความสำคัญกับจังหวัดจัดการตนเอง โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง เป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่ท้องถิ่น และลดอำนาจจากส่วนกลาง ซึ่งมีความเชื่อมโยง กับร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร พ.ศ. ... ซึ่งเป็น พ.ร.บ. ที่ภาคประชาชนเป็นผู้จัดทำขึ้นเองนั้น มีการยกร่างเสร็จแล้ว และหลังจากนี้จะมีการทำประชาพิจารณ์ และมีการแจกจ่ายเอกสาร นำองค์กรต่างๆในจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา โดยประมาณกลางปีหน้าจะมีการเสนอชื่อโดยประชาชน 10,000 คน โดยสิ่งสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือการทำให้จังหวัดมีการจัดการตนเองโดยให้พื้นที่เป็นตัวตั้ง มีการบริหารจัดการเบ็ดเสร็จในพื้นที่นั้นๆ จะทำให้การตัดสินใจอยู่ในส่วนของท้องถิ่น โดยมีส่วนกลางเป็นผู้สนับสนุน ประสาน ช่วยเหลือ
ด้านนางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ รองประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวถึงการดำเนินการจังหวัดจัดการตนเองว่า ทางสภาพัฒนาการเมือง ได้มีการดำเนินการสนับสนุนจังหวัดจัดการตนเอง ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และปัตตานี เป็นจังหวัดนำร่อง และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งทั้งนี้การดำเนินการขับเคลื่อนไปพร้อมกับสำนักงานปฏิรูป (สปร.) โดยคาดว่าจะมีอย่างน้อย 30 จังหวัดที่จะมีการดำเนินการจังหวัดจัดการตนเอง และในปี 55 จะมีร่าง พ.ร.บ. อำนาจเจริญ พ.ร.บ. ภูเก็ต
จากนั้น นายไพโรจน์ พลเพชร กรรมการปฏิรูปกฎหมาย กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติ ต่อไปว่า คปก.จำเป็นต้องได้ข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อนำมาศึกษาเพิ่มเติม และคปก. จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเชื่อมโยง องค์กรต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนและพูดคุยในประเด็นเชิงลึก พร้อมทั้งต้องมีระเบียบ
คณะกรรมการเฉพาะเรื่องที่ชัดเจน สำหรับเรื่องของจังหวัดจัดการตนเอง ทาง คปก.จะได้มีการสนับสนุนให้มีองค์ความรู้ เพื่อเป็นจังหวัดนำร่อง
“ถ้าสามารถใช้กฎหมายเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจได้ จะทำให้ปัญหาทั้งหมดคลี่คลาย”
