"ไอซีที"ยัน พ.ร.บ.มั่นคงทางไซเบอร์ไม่ละเมิดสิทธิบุคคล
รัฐบาลยังคงเดินหน้าออกกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากมีความจำเป็นโดยยืนยันว่าเนื้อหาสาระไม่ได้ก้าวล่วงสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด ขณะที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันจะพิจารณาข้อทักท้วงอย่างเต็มที่ โดยจะรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า สำหรับกฎหมายที่ประชาชนแสดงความเป็นห่วงว่าจะละเมิดสิทธิเสรีภาพมี 3 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์, ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ทั้งหมดอยู่ในชั้นการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยขอยืนยันกับประชาชนว่าจะพิจารณาและคำนึงถึงข้อทักท้วง โดยเฉพาะการใช้อำนาจที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจะหามาตรการต่างๆมากำกับดูแลให้เหมาะสม ระหว่างนี้ยังสามารถปรับแก้เนื้อหาได้
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวน 10 ฉบับ เพื่อสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดเผยว่าทาง สพธอ.มีแผนจะดำเนินการจัดเวทีสาธารณะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทุกสัปดาห์ โดยขณะนี้กำลังวางแผนอยู่ว่าในแต่ละสัปดาห์จะหยิบยกหัวข้อใดขึ้นมาหารือบ้าง ขณะเดียวกันก็เตรียมชี้แจงกับทางภาคธุรกิจด้วย
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าออกกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากมีความจำเป็น โดยยืนยันว่าเนื้อหาสาระไม่ได้ก้าวล่วงสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด
ส่วนนายสิทธิชัย โภไคยอุดม ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวถึงกระแสการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ที่จะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้ตั้งทีมพิเศษเพื่อทำหน้าที่ร่างกฎหมายใหม่ เพื่อไม่ให้กฎหมายที่ออกมาเป็นประเด็นว่าทำเพื่อรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ต่างเป็นกังวลเพราะรัฐบาลไม่ต้องการกฎหมายเผด็จการ แต่ต้องการกฎหมายที่ออกมาเป็นธรรม เป็นประชาธิปไตยและมีความเป็นสากล
ด้านนายอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต กล่าวถึงที่มาของการผลักดันแคมเปญรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อ "หยุดชุดกฎหมาย ความมั่นคงดิจิทัล" ที่เว็บไซต์ Change.org เนื่องจากเห็นว่าร่างกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี แม้บางส่วนจะเป็นประโยชน์ แต่ในภาพรวมแล้วละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและผู้ประกอบการในหลายด้าน ผูกขาดการเข้าถึงทรัพยากร ไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลดังที่กล่าวอ้างและมีลักษณะเหมือนกฎหมาย "ความมั่นคงดิจิทัล" เสียมากกว่า ซึ่งล่าสุดมีประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านเว็บไซต์ change .org แล้วกว่า 9,883 คน
ขอบคุณข่าวจาก