หึ่งโลกออนไลน์! พลิกธุรกิจขายยาทำแท้งเถื่อน-ปัญหาเก่าที่รอการแก้ไข ?
พลิกธุรกิจขายทำแท้งเถื่อน! สะเทือนโลกออนไลน์ระลอกใหม่ หลังถูกกวาดล้างหลายกลุ่มช่วงปี 55 เปิดใหม่ผ่านเว็บ, IG, Line อ้างใช้ยาจากบริษัทยักษ์ใน-ต่างประเทศ รีวิวเด็กที่หลุดจากการใช้ยา “ปธ.มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” ชี้ให้อนุญาตเป็นยาถูกกฎหมายป้องเกิดปัญหา “ตำรวจไซเบอร์” ลั่นเป็นคนร้ายกลุ่มใหม่ เร่งตรวจสอบอยู่

ภายหลังเป็นที่ฮือฮากันในโซเชียลเน็ตเวิร์คในช่วงปี 2555 กับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมแฟนเพจ “ขายยาทำแท้งออนไลน์”
เชื่อหรือไม่ ? ปัจจุบันการขายยาเหล่านั้นยังไม่หมดไป แต่กลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และอาศัยช่องทางต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ที่กำลังขยายตัว เพื่อทำการจำหน่ายยาให้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อย่างโจ่งแจ้ง
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พบว่า มีผู้ใช้ Instagram ชื่อหนึ่ง อ้างว่า เป็นผู้จำหน่ายยาสอด ยาทำแท้ง ยาขับเลือด ไซโตเทค (cytotec) ยาเหน็บ ยากินทำแท้ง และยาขับประจำเดือน
โดยมีหน้าร้านประจำผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง

อ้างว่า ใช้ยานำเข้าจาก 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งไทยแต่ต่างประเทศ !
ก่อนจะสาธยายสรรพคุณว่า มีตัวยาที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีใช้ในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และหากสั่ง 10 เม็ดขึ้น จะลดราคาให้อีก
โดยอายุครรภ์มากที่สุดที่ทางร้ายจำหน่ายยาทำแท้งให้นั้น อยู่ที่ช่วง 5-6 เดือน
ที่สำคัญมีการ “รีวิว” ภาพลูกค้าที่ใช้ยาแล้วประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นภาพ “เด็ก” ที่หลุดออกมาจากอายุครรภ์ที่ต่างกันอย่างโจ่งแจ้ง รวมถึงข้อความจากลูกค้าที่เล่าถึงอาการข้างเคียงจากการใช้ยา
ไม่รอช้า ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราติดต่อไปยังร้านดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยมีผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของร้านดังกล่าวระบุว่า ใช้ยาตามมาตรฐานจากบริษัทต่างประเทศและในประเทศ และทั้ง 3 บริษัทนั้นก็ได้ผลิตตัวยาชนิดเดียวกัน
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ติดสายกับ “ลูกค้า” รายอื่นอยู่ และจะติดต่อกลับไปหาผู้สื่อข่าวอีกครั้ง
เพื่อไขข้อข้องใจให้กระจ่างชัด ได้ติดต่อไปยัง ภญ.รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อสอบถึงกรณีดังกล่าวทันที
“ปัญหานี้เคยมีการหยิบยกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าที่ร้านค้าเหล่านี้ยังขายได้เนื่องจากมีคนต้องการซื้อยาเยอะ เพราะปัญหาแม่วัยใส ตั้งครรภ์ไม่พร้อมยังไม่หมดไป พอเกิดปัญหาขึ้นมาก็อยู่ที่ว่าเค้าจะแก้ปัญหากันยังไง บางคนก็ไปคลินิคเถื่อน หรือบางคนก็ซื้อยาเอง ซึ่งยาพวกนี้ก็ไม่ใช่ยาที่ขึ้นทะเบียนว่าถูกกฎหมาย ก็มีคนส่วนหนึ่งใช้ปัญหานี้ทำธุรกิจ” เป็นคำยืนยันจาก ภญ.รศ.ดร.จิราพร
ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังระบุอีกว่า เคยนำเสนอปัญหานี้ในที่ประชุมคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เช่นกัน ให้ควรพิจารณาอนุญาตขึ้นทะเบียนยาเหล่านี้ให้ถูกกฎหมาย โดยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ดีกว่าปล่อยให้มีปัญหาเรื้อรัง
เพราะถ้าหากแพทย์เห็นว่าผู้ตั้งครรภ์ยังไม่มีความพร้อม ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ การตั้งครรภ์ก็เท่ากับว่าเป็นโรค แพทย์สามารถทำแท้งให้ได้ถ้าหากจำเป็น โดยการทำแท้งตามขั้นตอนที่ถูกต้องและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นการส่งเสริมให้ทำแท้ง แต่เป็นการทำให้เด็กที่มีปัญหาได้รับการบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย
ส่วนเรื่องยาที่ขายปรากฏอยู่ตามโลกออนไลน์นั้น ดร.จิราพร อธิบายว่า เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและมีอันตรายต่อผู้ซื้อ เนื่องจากข้อมูลที่ทางร้านบอกนั้นไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงการโฆษณาเท่านั้น ตัวยาเองก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าเป็นยาของแท้หรือไม่ อีกทั้งบริษัทที่ทางร้านอ้างว่ารับยามาก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ว่าผลิตยาออกมาตามที่อ้างจริงหรือไม่ หากรับประทานเข้าไปอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ หรือบางทีเด็กก็ไม่ได้หลุดออกมา และยังมีปัญหาทางสุขภาพตามมาอีกมากมาย
สำหรับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ยืนยันว่า สาเหตุที่ปัญหาเหล่านี้ยังไม่หมดไปนั้น อาจเป็นเพราะมีคนร้ายกลุ่มใหม่เกิดขึ้น ซึ่งทางตำรวจเองก็พยายามดำเนินการตรวจสอบอยู่ เนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความเข้ามาเป็นจำนวนมาก
“หากมีหลักฐานหรือเบาะแสอะไรที่เกี่ยวข้องกับร้านขายยาทำแท้งออนไลน์ต่าง ๆ ก็ขอให้นำมาให้เจ้าหน้าที่ดู เพื่อที่จะเร่งตรวจสอบต่อไป” ตำรวจไซเบอร์รายหนึ่ง ระบุ
ทั้งหมดคือพฤติการณ์ล่าสุดของขบวนการ “ขายยาทำแท้งเถื่อน” ที่เริ่มลุกลามบานปลายจากแฟนเพจในเฟซบุ๊ก ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Line จนขยายเต็มไปอยู่ทั่วโลกออนไลน์ นอกเหนือไปจากเว็บไซต์ที่นำเสนอข้างต้น
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสอดส่องดูแล รวมไปถึงผู้ปกครองให้คำปรึกษาในทางที่ดี ป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างที่ผ่านมาอีก !

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก google ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในรายงานชิ้นนี้แต่อย่างใด
