สมาคมสื่อไทย-กัมพูชาตกลงตั้งสายด่วนแลกเปลี่ยนข่าวสาร
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association) และสโมสรผู้สื่อข่าวกัมพูชา (Club of Cambodian Journalists) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี ระหว่างสื่อมวลชนของทั้งสองประเทศ
การลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่สื่อมวลชนทั้งสองประเทศได้เข้าร่วมพบปะพูดคุย ในงานสัมมนาเรื่องบทบาทสื่อมวลชนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2554 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้การลงนามดังกล่าวมีนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนสื่อมวลชนฝ่ายไทย และ นายเปน สมิทธี นายกสโมสรผู้สื่อข่าวกัมพูชา เป็นตัวแทนสื่อมวลชนกัมพูชาร่วมลงนาม
นายชวรงค์ กล่าวว่าการร่วมลงนามข้อตกลงทางด้านความร่วมมือในวันนี้นับได้ว่าเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่งที่สื่อมวลชนทั้งสองประเทศจะได้มีการพบปะ มีความร่วมมือ ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างทั้งสองประเทศ ให้สื่อมวลชนและประชาชนทั้งสองประเทศได้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาความขัดแย้งเรื่องชายแดนปราสาทเขาพระวิหารของทั้งสองประเทศ ทำให้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศอาจมีความเข้าใจไม่ตรงกันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้จะช่วยให้การทำงานของสื่อมวลชนทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายชวรงค์กล่าวว่าจากนี้ต่อไปความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนไทยและกัมพูชาสามารถพัฒนาได้เป็น3 ระยะ กล่าวคือระยะแรกเป็นการแต่งตั้งตัวแทนประสานงานของแต่ละสมาคมเพื่อเป็นจุดประสานงานของแต่ละสมาคม ระยะกลางจะเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมผู้สื่อข่าวทางสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมีความพร้อมเต็มที่ในเรื่องนี้อยู่มากและระยะยาวหวังว่าทั้งสองสมาคมจะมาร่วมกันจัดทำคู่มือการรายงานข่าวความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเพื่อให้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศมีความเข้าใจมากขึ้น
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่านับจากวันนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนของทั้งสองประเทศจะเติบโตและมั่นคงต่อไป
นายสมิทธี กล่าวแสดงความขอบคุณสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในการจัดโครงการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนไทยกับสื่อมวลชนกัมพูชาในครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เช่นกันหลังจากที่สื่อมวลชนไทยและกัมพูชาต้องห่างหายไปในช่วงระยะเวลา ของความขัดแย้งของทั้งสองประเทศที่ผ่านมา
นายสมิทธีกล่าวอีกว่าการลงนามความร่วมมือเรื่องการสร้างเสริมความสัมพันธ์สื่อมวลชนทั้งสองประเทศในครั้งนี้ มิได้เป็นเพียงภาพ และเอกสารที่มีการรับรองเท่านั้น แต่ ขอรับรองว่าสิ่งต่างๆที่อยู่ในความร่วมมือในครั้งนี้ จะได้รับการปฏิบัติอย่างแน่นอนเพื่อความสัมพันธ์ที่มั่นคงของสื่อมวลชนทั้งสองประเทศ
นายสมิทธีกล่าวว่าเหตุการณ์การเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาในปี พ.ศ.2546 เป็นเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนกัมพูชาไม่สามารถลืมได้เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่ไม่ตรงกันบันทึกความเข้าใจที่ทั้งสองสมาคม ได้ร่วมลงนามในครั้งนี้จะเป็นสะพานเชื่อมข้อมูลให้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศนั้นมีความเข้าใจที่ตรงกันมาก
ขึ้น
หมายเหตุ โครงการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์สื่อมวลชนไทย-กัมพูชาในครังนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์
แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2554 โดยมีสื่อมวลชนกัมพูชาเข้าร่วม 5 คนประกอบด้วย
Mr . Pen Samitthy, President of the Club of Cambodian Journalists
Mr. Prach Sim, Secretary General of the Club of Cambodian Journalists
Mr. Chea Garoda, Editor of the Koh Santepheap Newspaper
Mr. Chhay Sophal, Member of the Club of Cambodian Journalists
Mr. Nguon Serath, Manager of the Club of Cambodian Journalists
