รับวาเลนไทน์!แก้กม.อาญาคดี“ชำเราเด็ก”มีผลแล้ว คุก 20 ปี อ้าง"ไม่รู้"ไม่ได้
มีผลในวันวาเลนไทน์! พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยคดี“ข่มขื่นเด็ก”บังคับใช้แล้ว กระทำชำเราวัย 13 -15 ปีแม้ยินยอม โทษหนักคุก 20 ปีปรับสูงถึง 4 แสน อ้าง“ไม่รู้อายุเด็ก”เพื่อให้พ้นผิด ไม่ได้

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายอาญาที่บัญญัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีกระทำชำเราเด็ก ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 13 ก.พ.58 มีผลบังคับใช้ในวันนี้ 14 ก.พ.58 (มีผลบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป)
สาระสำคัญคือได้แก้ไขความผิดว่าด้วยการกระทําชําเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีและสิบห้าปี จากเดิมถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี ให้มีโทษปรับสูงขึ้นจากสูงสุดสี่หมื่นบาท (40,000บาท) เป็นสี่แสนบาท (400,000) และในกรณีกระทำต่อเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ห้ามอ้างว่า “ไม่รู้อายุของเด็ก”เพื่อให้พ้นจากความผิด
เนื้อหาของกฎหมายมีดังนี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2558”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 277 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน
“มาตรา 277 ผู้ใดกระทําชําเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้น จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท (เดิมปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท)
การกระทําชําเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การกระทําเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทํา โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทํากระทํากับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้ สิ่งอื่นใดกระทํากับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษ จําคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท (เดิมปรับหนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท) หรือจําคุกตลอดชีวิต
การกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทําโดยร่วมกระทําความผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทํากับเด็กชายในลักษณะเดียวกันหรือได้กระทําโดยมีอาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจําคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทําโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทําต่อเด็ก ซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กผู้ถูกกระทํานั้นยินยอม ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชน และครอบครัวจะพิจารณาให้มีการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กผู้ถูกกระทําหรือผู้กระทําความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก หรือจะอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกันโดยกําหนดเงื่อนไขให้ต้องดําเนินการภายหลัง การสมรสก็ได้ และเมื่อศาลได้พิจารณามีคําสั่งอย่างใดแล้ว ศาลจะลงโทษผู้กระทําความผิดน้อยกว่าที่กฎหมาย กําหนดไว้สําหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ในการพิจารณาของศาลให้คํานึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ สิ่งแวดล้อมของผู้กระทําความผิดและเด็ก ผู้ถูกกระทํา ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทําความผิดกับเด็กผู้ถูกกระทํา หรือเหตุอื่นอันควรเพื่อประโยชน์ ของเด็กผู้ถูกกระทําด้วย”
(เดิมระบุว่า “ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป”)
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 285/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
“มาตรา 285/1 การกระทําความผิดตามมาตรา 277 มาตรา 279 มาตรา 282 วรรคสาม มาตรา 283 วรรคสาม และมาตรา 283 ทวิ วรรคสอง หากเป็นการกระทำต่อเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ห้ามอ้างความไม่รู้อายุของเด็กเพื่อให้พ้นจากความผิดนั้น”
มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 321/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “มาตรา 321/1 การกระทําความผิดตามมาตรา 312 ตรี วรรคสอง และมาตรา 317 หากเป็นการกระทําต่อเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ห้ามอ้างความไม่รู้อายุของเด็กเพื่อให้พ้นจากความผิดนั้น”
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ตามที่มีกฎหมายกําหนดให้ผู้กระทําความผิด ฐานกระทําชําเราเด็กอายุกว่าสิบสามปีแต่ไม่เกินสิบห้าปีไม่ต้องรับโทษ หากศาลอนุญาตให้ผู้กระทําความผิด สมรสกับผู้เสียหายที่เป็นเด็กนั้น ทําให้เกิดปัญหากรณีเด็กถูกบังคับให้ยินยอมสมรสกับผู้กระทําความผิด โดยศาลไม่อาจตรวจสอบได้ สมควรกําหนดให้ศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวเป็นศาลที่มีอํานาจ พิจารณาคดีในลักษณะนี้ นํามาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กมาใช้ หรือ พิจารณาอนุญาตให้สมรสโดยกําหนดเงื่อนไขที่จะดําเนินการภายหลังการสมรสด้วย เพื่อให้มีการตรวจสอบ ความยินยอมของเด็กในการสมรสได้อย่างละเอียดรอบคอบยิ่งขึ้นและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเด็กอย่างแท้จริง และในกรณีที่ศาลมีคําสั่งอย่างใดแล้ว
ศาลจะลงโทษผู้กระทําความผิดน้อยกว่าที่กฎหมายกําหนดไว้ สําหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทําความผิดใช้การสมรสเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับโทษ และโดยที่บทบัญญัติความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพที่กระทําต่อเด็กได้กําหนดให้อายุเด็ก เป็นองค์ประกอบความผิด ทําให้ผู้กระทําความผิดอ้างความสําคัญผิดหรือความไม่รู้ในข้อเท็จจริงอันเป็น องค์ประกอบความผิดเพื่อไม่ต้องรับผิดหรือได้รับยกเว้นโทษ หรือได้รับโทษน้อยลงได้ สมควรกําหนดให้ ผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับเพศหรือความผิดต่อเสรีภาพซึ่งได้กระทําต่อเด็กที่มีอายุไม่เกินสิบสามปี ไม่อาจอ้าง ความไม่รู้อายุของเด็กเพื่อให้พ้นจากความรับผิดทางอาญา ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย มากยิ่งขึ้น อีกทั้งสมควรปรับปรุงอัตราโทษปรับให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน จึงจําเป็นต้อง ตราพระราชบัญญัตินี้
(ดูกฎหมายฉบับเต็ม ที่นี่ )
หมายเหตุ : ภาพประกอบ จาก variety.horoworld.com
