จี้สอบประโยชน์ทับซ้อนโครงการบ้านหลังแรก

ปชป. จี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบผลประโยชน์ทับซ้อนบ้านหลังแรก แฉ ​เอม-อุ๊งอิ๊ง-บรรพจน์-บุษบา" ถือหุ้นเอสซีเพียบ 

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ สส.สงขลา หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายโครงการบ้านหลังแรกที่ขยับกรอบราคาจาก 3 ล้านบาท  เป็น 5 ล้านบาท จนทำให้​บริษัทเอสซีแอสแสท คอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)  ได้ประโยชน์มหาศาลน่าเชื่อว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

ทั้งนี้ หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทเอสซีฯ ได้เลือกนางบุษบา ดามาพงศ์ ​ภรรยานายบรรพจน์ ดามาพงศ์ ที่เป็นจำเลยคู่กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ​ในคดีเลี่ยงภาษี  ขึ้นมาเป็นประธานแทน  อีกทั้ง นางบุษบา​ยังเกี่ยวข้องกับการซุกหุ้นบริษัทแอมเพิลริช ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีฯ และคดีกำลังอยู่ในการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)

นายวิรัตน์ กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร โครงสร้างผู้ถือหุ้น แต่ก็ยังเป็นคนในครอบครัวชินวัตร ซึ่ง จากการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีฯ ในปัจจุบัน พบว่า น.ส.พิณทองทา  และ น.ส.แพทองธาร   ชินวัตร บุตรสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ถือหุ้นอยู่คนละ 200 ล้านหุ้น ส่วนนายบรรพจน์ ถือหุ้น 31.8 ล้านหุ้น คุณหญิงพจมานถือ 18.5 ล้านหุ้น และจากการดูคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในช่วงที่เป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทเอสซีฯในปี 2550 มีการระบุชัดว่า การดำเนินการของบริษัทเอสซีฯ จะก้าวหน้าได้จะต้องมีการลดราคา ลดขนาดโครงการบ้าง และอื่นๆ

นายวิรัตน์ กล่าวว่า  พฤติกรรมต่างๆ คาบเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 279-280 ที่กำหนดถึงมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากไม่มีการดำเนินการตามที่กำหนดถือว่าผิดวินัย ต้องส่งป.ป.ช.ดำเนินการ และยังผิดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 13(2) ที่ระบุข้าราชการการเมืองมีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ทั้งนี้ผู้ตรวจการฯ สามารถหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาได้ทันทีโดยไม่ต้องมีผู้ร้อง ซึ่งหากพบว่ามีความผิด ผู้ตรวจการฯสามารถยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ(ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการถอดถอนบุคคลนั้นออกจากตำแหน่งได้

นอกจากนี้ยังเข้าข่ายขัดจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมของสส. ที่ห้ามไม่ให้สส.ร่วมมือกับบุคคลหรือองค์กรใดในการแสวงหาประโยชน์มิชอบและ ไม่ให้คนในครอบครัวหรือผู้อื่นใช้ตำแหน่งโดยมิชอบด้วย ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า เรื่องนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีผู้ได้ประโยชน์เป็นเอกชนรวมหลายพันล้านบาท ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะรวบรวมหลักฐานยื่นต่อผู้ตรวจการฯเพื่อสอบเพิ่มเติมด้วย​ .