ศาลชี้ช่างภาพรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่นถูกกระสุนความเร็วสูงยิง
ศาลอ่านคำสั่งการชันสูตรพลิกสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิต ของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น , นายวสันต์ ภู่ทอง ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ชุมนุม นปช. ผู้ตาย ซึ่งทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถ.ดินสอ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ช่วงเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตามประกาศ ศอฉ.สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอคืนพื้นที่การชุมนุม จาก นปช.ที่ปิดเส้นทางจราจร ถ.ราชดำเนิน แยกคอกวัว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยศาลมีคำสั่งว่า นายฮิโรยูกิ ผู้ตายที่ 1 ถึงแก่ความตายบนถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 เวลา 21.00 น. ซึ่งถูกยิงด้วยกระสุนปืนด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงที่ไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่ทรวงอกด้านซ้ายส่วนบน ทำลายปอดและหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งกระสุนทะลุออกต้นแขนขวาด้านหลัง
ส่วนนายวสันต์ ผู้ตายที่ 2 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 เวลา 21.00 น. บนถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา โดยถูงยิงด้วยกรัสุนปืนความเร็วสูงไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าที่บริเวณศรีษะด้านซ้าย ส่วนหลังส่วนบนทะลุกระโหลกศรีษะและตัดเนื้อสมอง กระสุนทะลุออกด้านหน้า และนายทศชัย ผู้ตายที่ 3 ถึงแก่ความตายในวันและเวลาเดียวกันบนถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่ไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่ทรวงอกด้านหลังซ้าย ทะลุตัดกระดูกซี่โครง ทะลุหัวใจและตัดซี่โครงด้านหลัง ซึ่งกระสุนทะลุออกด้านหลังซ้าย
ขณะที่การเสียชีวิตของผู้ตายทั้งสามรายไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ และไม่อาจทราบได้ว่ากระสุนปืนที่ยิงมีแนววิถีมาจากทางใด ภายหลังนายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เคารพในคำตัดสินของศาล แต่ทางพนักงานสอบสวนและอัยการได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบอย่างชัดเจนว่าผู้ตายทั้งสามเสียชีวิตจากฝีมือทหาร รวมทั้งก่อนหน้านี้ศาลเคยมีคำสั่งว่าแนวร่วมนปช. 2 รายเสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ทหาร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะแจ้งให้ทางสถานฑูตญี่ปุ่นและครอบครัวของนายฮิโรยูกิทราบ พร้อมทั้งจะศึกษาข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. ซึ่งมาร่วมฟังคำสั่งด้วย กล่าวว่า เคารพคำสั่งของศาลแต่ก็รู้สึกผิดหวัง เพราะเห็นชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ทหารครอบครองพื้นที่โดยสิ้นเชิง และวิถีกระสุนก็ระบุชัดเจนว่ามาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ และคณะทำงานสอบสวนคดีนี้ก็เป็นคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งผลชันสูตรศพก็ระบุชัดว่าบาดแผลของผู่ตายทั้งสามเกิดจากกระสุนปืน 5 มม.ที่เป็นปืนของทางการทหาร ไม่ใช่ 7 มม.ซึ่งเป็นกระสุนปืนอาก้าที่มีคนกล่าวอ้างว่ากลุ่มชายชุดดำใช้ เราไม่อยากให้เกิดการเสียชีวิตบนถนนและความจริงหายไป ดังนั้น ถ้าจะก้าวข้ามความขัดแย้งต้องทำความจริงให้ปรากฎ

