6 days in Guangdong :ตามรอยเส้นทางสายไหมที่“กว่างโจว”(1)
"..กว่างโจว ตั้งอยู่ทางแนวชายฝั่งทะเลตอนใต้ของจีน เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น (Shenzhen), จูไห่ (Zhuhai) และ ซัวเถา (Shantou) เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง (Zujiang) มีความประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเลในครั้งอดีต และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย.."
14.15 น. พลันที่ก้าวเท้าออกจากประตูอาคารผู้โดยสารขาเข้าปะทะกับสภาพอากาศขมุกขมัวของหมอกปลายเดือนเมษายน ต่างจากกรุงเทพฯเมื่อ 8 ชั่วโมงก่อนที่พายุฤดูร้อนหอบฝนมาตกหนักในตอนเช้ามืด
ใช่แล้ว!ที่นี่คือกว่างโจว หรือ กวางเจา (Guangzhou) เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง หรือ กว่างตง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนนั่นเอง
กว่างโจว ตั้งอยู่ทางแนวชายฝั่งทะเลตอนใต้ของจีน เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น (Shenzhen), จูไห่ (Zhuhai) และ ซัวเถา (Shantou) เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง (Zujiang) มีความประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเลในครั้งอดีต และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย
ปัจจุบันกว่างโจวมีบทบาทเป็นเมืองในเขตเศรษฐกิจ การค้า ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในภาคใต้ของจีน และยังได้รับสถานะเป็นหนึ่งในสามเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของจีน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีผลผลิตโดยรวมมากเป็นอันดับต้น นอกจากนั้นยังมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ทันสมัย ระบบรถไฟใต้ดิน การเดินทางไปฮ่องกงทำได้สะดวกทั้งทางรถไฟ รถบัส และ เรือด่วน โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทย ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ด้านภูมิอากาศ อาหาร การดำรงชีวิตของผู้คน ตลอดจนความเป็นอยู่ก็มีความคล้ายคลึงกับคนไทยและประเทศไทย
ข้าพเจ้าได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่วิทยุรัฐบาลจีนประจำประเทศไทย (China Radio International) และสำนักงานประชาสัมพันธ์ และสถานีวิทยุประเทศจีนประจำเมืองกว่างโจว (Guangzhou)ให้ร่วมคณะเดินทางตามรอยเส้นทางการค้าของเมืองกว่างโจวและเมืองบริวารในภูมิภาคจีนตอนใต้(The Maritimes Silk Road) เป็นการเดินทางยาว 5 วันเต็ม (รวมวันเดินทางเป็น 6 วัน) ร่วมกับสื่อมวลชนจาก 20 ประเทศในเอเชีย แอฟริกา ยุโรปบางประเทศ และสื่อท้องถิ่นกว่า 30 ชีวิต
กรอบการเดินทางถูกกำหนดให้พบปะผู้คนและสถานที่สำคัญในเมือง กว่างโจว ตงกวาน (Dongguan) และ โฟซาน (Foshan) ตลอดแนวเส้นทางการค้ายุคอดีตจนถึงปัจจุบันกว่า 19 แห่ง ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ พระราชวัง งานแสดงสินค้ากวางตุ้งแฟร์ ศิลปหัตถกรรมวิถีของชนพื้นเมือง แหล่งผลิตสินค้า วัดสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างวัดโฟชาน (Temple of Foshan) แหล่งอารยะธรรมของจีน และเมืองใหม่ทางอุตสาหกรรมในวันสุดท้าย
เข็มนาฬิกาจะหยุดอยู่ที่เกือบ 3 ทุ่ม (21.00 น.) แทบทุกวัน
2 ทุ่มครึ่งถูกรับน้องด้วยการพาไปชมความงามในช่วงค่ำที่ Flower City Square นวัตกรรมหอสูง 107 ชั้น ข้างล่างเป็นศูนย์การค้า แต่ด้วยสภาพอากาศเหมือนหมอกลง ทำให้เห็นความงดงามได้ไม่มากเท่าที่ควร
สอบถามเจ้าหน้าที่ร่วมคณะได้ความว่าอัตราค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยว คนละ 200 หยวน ถ้าซื้อครบแพ็คเก็จซึ่งมีเครื่องเล่นวัดใจคนชอบความสูงด้วย คนละ 290 หยวน ทั้งคณะขึ้นมาพร้อมกันเกือบ 50 คน กว่าจะรอแต่ละคนชักภาพเป็นที่ระลึกเสร็จ ก็สี่ทุ่ม
ในวันรุ่งขึ้นเช็คเอ้าท์จาก Hotel Canton พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายทักทาย เดินเท้าไม่ไกลนัก ชมพิพิธภัณฑ์ของพระราชวังนานยื่อ อายุกว่า 2,000 ปี สมัยราชวงศ์จิ๋น จากนั้นนั่งรถไปชมงานแสดงสินค้านานาชาติ ของกวางตุ้ง (China Import and Export Fair) หรือคนทั่วไปเรียกว่า The Canton Fair ต่อด้วยท่าเรือสมัยโบราณฮวงฟู่ (The Ancient Huangpu Port) ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของเรือสินค้าของยุโรปชาติหนึ่งตั้งเป็นสัญลักษณ์ ภายในมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางการค้า และสิ้นสุดที่ศาลเจ้าเก่าที่เรียกว่า Nan Hai God Temple สมัยราชวงศ์ซ่ง ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เชื่อกันว่าพ่อค้าคนจีนก่อนจะออกเรือเดินทางไปค้าขายกับต่างประเทศจะต้องมาสักการะขอพรขอให้เดินทางปลอดภัยค้าขายรุ่งเรืองรำรวยเงินทองกลับมา
เสร็จจากศาลเจ้าหนานไห่ในเวลา 16.00 น.ออกเดินทางต่อไปยังเมืองตงกว่าน (Dongguan) และพักค้างที่นี่
“ตงกว่าน”ตั้งอยู่ภาคใต้ตอนกลางของกว่านตง(Guangdong) ห่างจากกว่างโจวไปไปทางตอนใต้ ประมาณ 50 กิโลเมตร ห่างจากเกาะฮ่องกงประมาณ 100 กิโลเมตร ขนาดเนื้อที่ 2,460 ตารางกิโลเมตร ประชากร 8.31 ล้านคน มากกว่า 7 คนอาศัยอยู่ในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เป็นฐานการส่งออกสำคัญของปะเทศจีน มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 18% ต่อปี มีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสาร เครื่องจักร โรงงานทอผ้า ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เรื่องเล่นของเด็ก และอุตสาหกรรมรองเท้า โรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาวกว่า 20 แห่ง
เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสนามบาสเก็ตบอลของเมืองตงกว่าน (Dongguan Basketball Center)ที่การก่อสร้างกำลังจะแล้วเสร็จ และจะถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งแบดมินตันระดับทัวร์นาเม้นท์ Sudirman Cup BMW World Mixed Team Championships)ในเร็วๆนี้ โดยผู้บริหารได้เปิดการแถลงข่าวในคราวเดียวกัน
ต่อด้วยโรงเรียนสอนกีฬาแบดมินตันตงกวาน (Dongguan Li Yongbo Badminton School and National Training Base) ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาแบดมินตันชื่อก้องโลกนับสิบคน จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนากีฬาโดยเฉพาะกีฬาแบดมินตัน มีโรงเรียนที่ฝึกสอนเป็นการเฉพาะ
ที่น่าสนใจอีกแห่ง คือ THe Chinese Aloeswood Culture Museum พิพิธภัณฑ์ที่ทำจากไม้หอม หรือเครื่องหอม (เฉินเซียง) ตั้งอยู่ใน Xiangshi Park เมืองตงกวาน แสดงวิวัฒนาการในการใช้ไม้ตั้งอดีตยันปัจจุบัน
ตบท้ายด้วยนั่งรถขึ้นเขาไปชมแหล่งปลูกไม้กฤษณาของเอกชนชื่อบริษัทซ่าง เจิง ถัง ในหุบเขาเนื้อที่กว่า 2 ล้านตารางเมตร ที่เรียกว่า Bai Hua Dong ได้ออกแบบการสาธิตกรรมวิธีผลิตไม้หอมในยุคก่อนโดยหญิงสาวอย่างละเมียด
แน่นอนว่า สีสันของ“ดอกไม้หอม” ได้รับความสนใจจำนวนมาก
เมืองตงกวาน ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 4 แหล่งผลิตเครื่องหอมที่มีชื่อเสียงที่สุด สามารถสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์จากไม้ชนิดนี้กว่า 100 ล้านหยวนต่อปี มากกว่า 80% ขายในประเทศ อีก 20% ส่งออกมียุโรปเป็นตลาดหลักในต่างประเทศ
เครื่องหอมของที่นี่สะท้อนให้เห็นว่าสินค้าในอดีตที่พ่อค้าชาวจีนส่งออกไม่ว่าขนใส่หลังอูฐ หลังม้า และลงเรือทางทะเล ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า เครื่องเซรามิก อีกต่อไป