ผบ.ทบ.ไม่กังวลฝ่ายการเมืองจะแก้ พ.ร.บ.ระเบียบกระทรวงกลาโหม
“พล.อ.ประยุทธ์” ไม่กังวลหากฝ่ายการเมืองจะแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ย้ำ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีไว้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ย้อนถามเสื้อแดงมีความเกี่ยวข้องหรืออยู่ในกระบวนการปรับย้ายหรือไม่ หลังออกมาค้านการปรับย้ายดังกล่าว ยืนยันการพิจารณาปรับย้ายนายทหาร เป็นไปตามหลักเกณฑ์และความเหมาะสม พร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่อย่าสร้างให้เป็นประเด็นโต้แย้ง แนะทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งแก้ไขปัญหาให้ประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมคัดค้านบัญชีปรับย้ายนายทหารที่หน้ากอง ทัพบกเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) โดยย้อนถามว่า คนเหล่านั้นเกี่ยวข้องหรือ อยู่ในกระบวนการปรับย้ายตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมหรือไม่ อย่าละเมิดคนอื่นมากนัก ตนไม่กังวลหากฝ่ายการเมืองจะมาแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ขอให้กลับไปดูว่าทำไมต้องมี พ.ร.บ.ฉบับนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้เห็นใจด้วยว่าภารกิจของทหารไม่เหมือนกับภารกิจของส่วนราชการอื่น ถ้ามีสงคราม เราก็ต้องสั่งให้เขาไปรบ แล้วถ้าสั่งไม่ได้ จะทำอย่างไรต่อไปในอนาคต ต้องคำนึงด้วยว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เกิดขึ้นด้วยหลักการ ด้วยเหตุผล และการปรับย้ายที่ผ่านมาก็ไม่ได้ใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้เลย เป็นการพิจารณาปรับย้ายโดยแต่ละหน่วยที่เกี่ยวข้องเสนอขึ้นมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้มีไว้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะอำนาจในการบังคับบัญชามีอยู่แล้ว เราให้เกียรติกัน ผู้บังคับบัญชามี 2 ระดับ ทั้งผู้บังคับบัญชาโดยตรง และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น การจะพิจารณาแต่งตั้งต้องมีคุณธรรม ใช้หลักธรรมาภิบาล
“อย่าใช้คำว่าแต่งตั้งทายาท เพราะทายาทของผมมี 2 คน คือลูกสาว กองทัพไม่ใช่ของผม การแต่งตั้งใครต้องพิจารณาด้วยความเหมาะสม ด้วยความรู้ความสามารถที่เขาทำงานมา อย่างรุ่นผมทำมาแล้ว 30 กว่าปี จะไม่ให้เขาเป็นใหญ่เป็นโตเลยคงไม่ได้ อีก 2 ปีก็จะเกษียณกันแล้ว และเขาก็เติบโตมาตามเส้นทางของเขาในแต่ละเหล่า คำสั่งนี้มีทั้งรุ่น 12 , 13 , 14 ที่จะเกษียณพร้อมๆ กัน ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปี 57 ขอให้ไปดูที่ว่าคนที่รับการแต่งตั้งควบคุมกองทัพได้หรือไม่ ทำประโยชน์กับบ้านเมืองได้หรือไม่ดีกว่า ขอร้องอย่ากดดันกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน กองทัพทำงานมาตลอด ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล เราก็เป็นกลไกในการทำงาน ขณะนี้ควรคิดกันว่าทำอย่างไรให้ประชาชนผ่อนคลายความเดือดร้อน ผมไม่ต้องการโต้แย้งกับใคร การเป็นผู้บังคับบัญชาคน จะเป็นแบบง่ายก็ได้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ตั้งคนของตัวเองไว้เยอะๆ แต่ผมไม่จำเป็นต้องตั้งทายาทในกองทัพ เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง โปร่งใสทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มดังกล่าวอ้างว่าได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน จึงควรมีสิทธิเข้ามาดูแลกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเห็นว่ามีอะไรไม่เหมาะสม ก็บอกมา รับฟังมาตลอด เพียงแต่อย่าทำให้เป็นประเด็นโต้แย้ง ถ้าจะแก้ไขกันในสภาฯ ก็ว่ากันไป เพราะกว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกมาได้ ก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน เมื่อถามว่าหากไม่มี พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว ฝ่ายการเมืองย้ายผู้บัญชาการทหารบกได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตนไม่ทำประโยชน์ก็ย้ายได้
“ผมทำประโยชน์หรือเปล่า ทำดีหรือไม่ ผมนำพากองทัพดีไหม กองทัพอ่อนหรือเปล่า ถ้ากองทัพอ่อนแอ ก็ต้องโดนลงโทษมั้ง ผมทำตามหน้าที่ แต่ประเด็นคือประเทศของเรามันมีปัญหามากจนแก้ไขยากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าทุกคนช่วยกัน รวมใจกันเป็นหนึ่งแก้ไขปัญหาโดยใช้กลไกปกติ มันก็แก้ได้ แต่ถ้าจะว่ากล่าวขัดแย้ง ประท้วงกันไปมา ผลเสียก็จะตกอยู่ที่รัฐบาลทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าอาจจะมีแรงกดดันให้ทหารออกมาปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “ใครจะปฏิวัติ ผู้บัญชาการทหารบกมีเพียงคนเดียว กองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยหลักก็มีเพียงหน่วยเดียว ทุกวันนี้ก็ทำงาน ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะปฏิวัติ คิดว่ามันง่ายนักหรือ ปัญหาของประเทศมีมาก ต้องมาร่วมมือกันแก้ไข เราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด ผู้บัญชาการทหารบกก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด”
