เรื่องราว "คนขับ", ล่าม, บ.ประกัน กับครอบครัวนักปั่นชาวชิลี หลังข่าวเงียบ
"...คุณเจลเนล ได้รับเงินชดเชยเบื้องต้น 200,000 บาทจากบริษัทประกันรายหนึ่ง พร้อมกล่าวอ้างว่า มีการเอาเงินมาให้ในวันงานศพของฟรานเซสโกพร้อมกับแผ่นบอร์ดใหญ่ๆ รูปเช็คเพื่อจะทำข่าวถ่ายรูปการมอบเงินยังกับว่าเจนเนลเป็นผู้ได้รับรางวัล เธอปฏิเสธที่จะถ่ายรูปแบบไร้รสนิยมเช่นนั้น เธอถามกลับมาว่าบริษัทคิดว่าเธอได้รับรางวัลอย่างนั้นหรือ.."
นี่คือสิ่งที่ ผู้ขับรถ ,ทนายความ,และบริษัทประกันภัย ทำกับครอบครัวนักปั่นชาวชิลี หลังจากข่าวเงียบไปแล้ว"
คือ คำเริ่มต้นประโยคบอกเล่าของ "บุคคลคนหนึ่ง" ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารกรณี นายฟรานเซสโก ชาวชิลี อายุ 48 ปี นักปั่นจักรยานทำสถิติลงกินเนสส์เวิลด์เรกคอร์ด 5 ทวีป ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน บนถนนมิตรภาพ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21ก.พ. ที่ผ่านมา
ผ่านข้อมูลและหลักฐานประกอบ ที่มีการนำโพสต์ไว้ในพันทิพ ของผู้ชายที่ชื่อ "ประกอบ@พันทิป" ซึ่งกล่าวอ้างว่า ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณเจลเนล ภรรยา นายฟรานเซสโก เกี่ยวกับเรื่องสัญญาและเงินชดเชยที่ได้รับจากผู้เกี่ยวข้อง ต่อกรณีการเสียชีวิตของสามี
สรุปเนื้อหาได้ความดังนี้
- คุณเจลเนล ได้รับเงินชดเชยเบื้องต้น 200,000 บาทจากบริษัทประกันรายหนึ่ง พร้อมกล่าวอ้างว่า "มีการเอาเงินมาให้ในวันงานศพของฟรานเซสโกพร้อมกับแผ่นบอร์ดใหญ่ๆ รูปเช็คเพื่อจะทำข่าวถ่ายรูปการมอบเงินยังกับว่าเจนเนลเป็นผู้ได้รับรางวัล เธอปฏิเสธที่จะถ่ายรูปแบบไร้รสนิยมเช่นนั้น เธอถามกลับมาว่าบริษัทคิดว่าเธอได้รับรางวัลอย่างนั้นหรือ"
- ในระหว่างที่ คุณเจลเนล พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้ขับรถ พร้อมล่าม มาพบ และเสนอจ่ายค่าชดเชย แต่เธอปฏิเสธ
พร้อมกล่าวอ้างว่า " ในวันที่ 5 มีนาคม การสอนสวนของตำรวจยังไม่เสร็จ งานศพของสามีก็ยังไม่ได้ทำ ล่ามเอาเอกสารข้อตกลงเป็นภาษาไทยมาให้เธอเซ็น มีการบอกให้เพื่อนของเธอออกไปนอกห้อง ทุกอย่างกระทำด้วยความรวดเร็วไม่ให้เธอได้ตั้งตัวและไม่มีเวลาคิด
ล่ามให้เธอเซ็นชื่อในเอกสาร แต่ล่ามไม่ได้อธิบายข้อความในสัญญาให้เธอเข้าใจกระจ่างโดยเฉพาะ 2 ข้อความสำคัญ อย่างแรกคือเธอจะไม่ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากผู้ขับรถชน อย่างที่สอง เธอจะไม่ติดใจผลการตัดสินของศาล ขณะที่รายงานอย่างเป็นทางการระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นความผิดของผู้ขับรถอย่างเดียว ที่แซงซ้ายบนไหล่ทางด้วยความเร็วสูงมากกว่า 80 กม/ชม มาชนฟรานเซสโกและครอบครัวที่ปั่นจักรยานอยู่บนไหล่ทาง
พร้อมระบุว่า ช่วงที่เธออยู่ในโรงพยาบาล มีใครต่อใครมาพบเธอมากมายรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และ เธอต้องเซ็นเอกสารเมื่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้นมา ดังนั้นเอกสารที่บอกว่าเธอไม่เรียกร้องค่าชดเชยและไม่ประสงค์จะติดใจเอาความ เป็นลูกเล่น ของคนบางกลุ่ม ที่จะแค่จ่ายเงินให้เธอแสนเดียวสำหรับความสูญเสีย และตัดตอนไม่ให้เธอเรียกร้องความยุติธรรมเพิ่มเติมได้ทั้งทางแพ่งทางอาญา โดยใช้ข้อจำกัดด้านภาษา และความไม่รู้ว่าเธอกำลังเซ็นเอกสารอะไร
"ส่วนการพูดคุยกับตัวแทนบริษัทประกันเป็นระดับผู้จัดการ เธอได้ถามตัวแทนไปว่า วงเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ (หมายถึงวงเงินต่ำสุด – สูงสุดที่บริษัทจะจ่าย) เพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้ เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะได้รับเงินชดเชยเท่าไหร่ เธอประเมินไม่ได้ว่าเธอควรจะเรียกร้องเท่าใด เธอไม่ได้รับคำตอบ ตัวแทนแค่โชว์เอกสารให้เธอประเมินเอาเอง
"เธอจึงถามต่อเพื่อให้ตอบง่ายขึ้น ว่าบริษัทเคยจ่ายสำหรับอุบัติเหตุแบบนี้เป็นเงินมากที่สุดเท่าไหร่ เธอก็ไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน แม้ว่าเธอจะได้ถามย้ำไปหลายครั้ง"
"ตัวแทนบอกว่าการบาดเจ็บของเธอไม่รุนแรง ดังนั้นบริษัทจะไม่จายเพิ่ม ทั้งที่แม้แต่ปัจจุบันเธอยังต้องใช้ไม้ค้ำช่วยเดินเพราะขาหัก ลูกชายวัย 14 เดือนเสียพ่อไป และเนื่องจากฟรานเซสโก้ต้องการเดินทางรอบโลกด้วยจักรยาน จึงปิดกิจการโรงเรียนสอน lifeguard ที่ชิลี ใช้เงินเก็บที่สะสมมา 20 ปี เพื่อเติมความฝันด้วยการเดินทางด้วยจักรยานรอบโลกครั้งนี้"
บริษัทประกันเสนอจะจ่ายทั้งหมดเท่านี้ และไม่ยอมเจรจาเพิ่มเติมกับเธออีก
1. ค่าเสียหายทางด้านทรัพย์สิน บริษัทจะจ่าย 150,000 บาท (สัญญารับผิดชอบสูงสุด 600,000 บาท) เจนเนล เล่าว่า เฉพาะจักรยานที่เธอและฟรานซิสโกใช้เดินทาง ราคาประมาณคันละ 80,000 บาท (นักปั่นทัวร์ริ่งระยะไกล จะเลือกใช้จักรยานที่แข็งแรงและมีสมรรถนะดี ซึ่งราคาจะแพง และที่ฟรานเซสโกเลือกใช้จักรยานราคาแพงเพราะต้องการจะทำสถิติโลก เพื่อจะได้รับเงินรางวัลจากGuinness book of Records US$200,000 ) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ต่างๆ
2. ชดเชยการตายของฟรานเซสโก 300,000 บาท เจนเนลเข้าใจว่านี่คือจำนวนเงินสูงสุดในกรมธรรน์ น่าบอกว่าน่าเศร้าที่ค่าชีวิตของใครซักคนในไทยมีเท่านี้เอง
3. ค่าชดเชยการบาดเจ็บของเธอและลูกชาย บริษัทต้องการจ่าย 180,000 บาท ในขณะที่สัญญาในกรมธรรน จะจ่าย 300,000 บาทต่อราย เจนเนลอยากจะให้บริษัทจ่ายเต็มวงเงินให้เธอและลูก เป็นเงิน 600,000 บาท เพราะเธอต้องใช้ชีวิตต่อไปในสิงคโปร์
คุณประกอบ ยังระบุด้วยว่า "วีซ่าของเจนเนลจะหมดวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ และเธอต้องกลับสิงคโปร์ เพื่อสมาชิกท่านใดยินดีจะให้ความช่วยเหลือเธอ โดยเฉพาะในทางกฏหมายและการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม ติดต่อเธอได้เลยตาม email [email protected] นี้"
ก่อนจะจบท้าย ฝากข้อมูลถึง เพื่อนสมาชิกท่านใดรู้จักผู้สื่อข่าวหรือสื่อสำนักไหนๆ อยากให้ช่วยนำเสนอเรื่องนี้ด้วย อย่าแค่ทำข่าวแต่ช่วงที่เกิดเหตุ ช่วงที่ขายข่าวได้ น่าสนใจ น่าสงสาร แต่อยากให้ติดตามเรียกร้องความเป็นธรรมให้เธอด้วย
"กระทู้นี้ได้รับการแชร์ใน FB มากกว่าหนึ่งหมื่นสี่พันครั้ง แต่ผมไม่เห็นสำนักข่าวไหนช่วยรายงานหรือติดตามเรื่องให้เลย อย่าปล่อยให้ความสูญเสียของใครซักคนที่เกิดจากความประมาทของตีนผีเลวๆ ทั้งหลายเป็นเรื่องไกลตัวเรา เพิกเฉยดูดายจนกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม"
ล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค.58 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยังผู้เกี่ยวข้องที่ปรากฎชื่ออยู่ในข้อมูลกระทู้นี้ ที่ถูกระบุว่าเข้ามาติดต่อกับ "คุณเจลเนล" เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร "สำนักข่าวอิศรา" เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะต้องรีบเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อทำความจริงให้ปรากฎโดยด่วน
ก่อนที่ "ภาพลักษณ์" ของประเทศไทย จะได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ จากข้อมูลนี้ที่กำลังถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์
โดยเฉพาะในยุคการบริหารของ "รัฐบาล" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความมุ่งมั่นต้องการจะปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน ให้ดีขึ้น
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก cliphotkhaohit.com
