23 ปีพฤษภาประชาธรรม พิธีบรรจุอัฐิวีรชน 3 ศาสนา-ทอดผ้าบังสุกุลสามัคคี
สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 ธันวาคม 2546 รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวัน “พฤษภาคมประชาธรรม” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดือนพฤษภาคม 2535 ซึ่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ได้กระทำความรุนแรงต่อประชาชนจนเกิดการสูญเสีย บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก และให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดงานรำลึกวัน “พฤษภาประชาธรรม” ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมจัดงานในวันดังกล่าวในทุกๆ ปีมาอย่างต่อเนื่องนั้น
เนื่องในวาระครบรอบ 23 ปีของเหตุการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และคณะผู้จัดงานได้กำหนดให้มีพิธีรำลึกเหมือนเช่นทุกปี ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม ศกนี้ ซึ่งในครั้งนี้จะมีพิธีบรรจุอัฐิวีรชนเดือนพฤษภา 35 ในอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม โดยมีผู้แทนศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม มาเป็นผู้นำการประกอบพิธี รวมทั้งมีผู้แทนจากภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ มาร่วมพิธีทอดผ้าบังสุกุลและเป็นสักขีพยานด้วย โดยคณะผู้จัดงานมุ่งหวังที่จะให้พิธีการนี้เป็นคณูประการสำหรับสังคมไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การอยู่ร่วมกันและสร้างความปรองดองของคนในชาติ
เพื่อให้กิจกรรม 23 ปี พฤษภาประชาธรรม ในปี 2557 นี้ บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงาน คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จึงใคร่ขอเรียนเชิญภาครัฐทุกส่วน ฝ่ายการเมืองทุกฝ่าย ภาคประชาชนทุกสาย กลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ที่อาจเห็นต่างทางความคิด มาร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ ทบทวนบทเรียนความรุนแรงในอดีต เพื่อให้อนุสติแก่สังคม ร่วมพิธีบรรจุอัฐิวีรชนพฤษภา 35 ในอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม (สวนสันติพร) และร่วมกันทอดผ้าบังสุกุลสามัคคีทุกหมู่ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่จิตวิญญาณของผู้ล่วงลับ ร่วมเสริมสร้างความเป็นมงคล อุทิศให้สังคมไทยสามารถข้ามพ้นความขัดแย้งที่รุนแรงในอดีต และนำบทเรียนในประวัติศาสตร์นั้นมาร่วมสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการสืบสานจิตวิญญาณ “พฤษภาคมประชาธรรม” ให้คงอยู่ต่อไป ในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้
พวกเราขอเชิญทุกท่านร่วมพาวิญญาณวีรชนกลับบ้านและสืบต่อเจตจำนงของพวกเขา ในการเสียสละเพื่อสร้างบ้านเมืองที่ตนอยากเห็นบ้านเมืองที่มีที่ยืนให้กับทุกความแตกต่าง
ร่วมประกาศเจตนาที่จะทำให้ความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมา เป็นอดีตที่จะไม่หวนกลับมาทำร้ายลูกหลานเราอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งความปรารถนานี้จะเป็นจริงได้ด้วยพวกเราทุกคนในปัจจุบันร่วมแสดงพลังที่จะสร้างบ้านแห่งนี้กันต่อ ให้พวกเราและลูกหลานของเราทุกคนทุกฝ่ายได้อยู่อย่างมีความสุขตลอดไป
วันนี้เราจะพาวิญญาณวีรชนเดือนพฤษภากลับบ้าน บ้านที่เมื่อ 23 ปีที่แล้ว พวกเขาต่อสู้เพื่อให้พวกเราได้อยู่ในบ้านที่ทุกคนรักและมีความสุข และเมื่อวันเวลาผ่านไป บ้านนี้อาจจะทรุดโทรมไปบ้าง ไม่สวยไปบ้างตามกาลเวลา วิญญาณวีรชนคงอยากเห็นพวกเราทุกคนในที่นี้ซึ่งมีความคิดหลากหลาย แตกต่าง และแม้กระทั่งขัดแย้งและทะเลาะกันรุนแรงในบางครั้ง ได้ร่วมกันออกแบบสร้างบ้านหลังนี้ให้น่าอยู่มากขึ้น เป็นบ้านที่ทุกคนอยากจะเห็นและสบายใจที่จะอยู่ด้วยกันต่อไป
ประเทศไทยเรา ได้ผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองใหญ่ๆ มาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งที่คนรุ่นนี้จำนวนไม่น้อยได้อยู่ร่วมสมัยกับเหตุการณ์ คือ เหตุการณ์ที่เรียกกันว่าพฤษภาทมิฬ 35 ซึ่งเป็นการต่อสู้ของประชาชนกับรัฐบาลที่ผิดคำมั่นสัญญาในการคืนอำนาจให้กับประชาชน เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก และการเสียสละของวีรชนเดือนพฤษภาก็ได้ปูทางไปสู่การปฏิรูปการเมืองครั้งสำคัญในเวลาต่อมา
และในวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค.ที่จะถึงนี้ คณะผู้จัดงานก็ได้กำหนดให้มีพิธีรำลึกเหมือนทุกปี แต่ครั้งนี้ จะพิเศษหน่อยตรงที่จะมีพิธีบรรจุอัฐิวีรชนเดือนพฤษภา 35 ในอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม โดยมีผู้แทนศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม มาเป็นผู้นำการประกอบพิธี รวมทั้งมีผู้แทนจากภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งตัวแทนกลุ่มการเมืองที่เคยร่วมเหตุการณ์ความขัดแย้ง มาร่วมพิธีทอดผ้าบังสุกุลและเป็นสักขีพยานด้วย
การเข้าร่วมพิธีรำลึกของทุกภาคส่วนในสังคมนี้ เป็นการสะท้อนเจตจำนงอันแรงกล้าของกลุ่มพลังต่างๆ ในสังคมการเมืองไทยที่ต้องการร่วมกันสดุดีและเป็นสักขีพยานในการพาวิญญาณวีรชนผู้เสียสละกลับบ้าน พวกเขาต่อสู้เพื่อให้พวกเราได้อยู่ในบ้านที่ทุกคนรักอย่างมีความสุข วิญญาณวีรชนคงอยากเห็นพวกเราทุกคนในวันนี้ ซึ่งแม้จะมีความคิดแตกต่างหลากหลาย ขัดแย้งกันรุนแรงบ้างในบางครั้ง ได้ช่วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวดูแลบ้านหลังนี้กันต่อไป
ในวันอาทิตย์นี้ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จึงอยากจะขอเชิญชวนให้พวกเราเข้าร่วมงานเพื่อร่วมกันประกาศเจตนาที่จะทำให้ความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมา เป็นอดีตที่จะไม่หวนกลับมาทำร้ายลูกหลานเราอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งความปรารถนานี้จะเป็นจริงได้ด้วยแรงกายและแรงใจของพวกเราทุกคนในปัจจุบัน
ทั้งนี้ พิธีบรรจุอัฐิวีรชนเดือนพฤษภา และพิธีทอดผ้าบังสุกุลสามัคคี คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และคณะกรรมการจัดงานฯ ได้เรียนเชิญทุกภาคส่วนเข้าร่วมกันทอดผ้าบังสุกุลสามัคคี ไม่ว่าจะเป็นผู้นำรัฐบาล ประธาน สนช. ประธาน สปช. หัวหน้าพรรคการเมือง องค์กรอิสระ แกนนำ กปปส. แกนนำ นปช. ผู้นำแรงงาน ฯลฯ โดยมี ศ.(พิเศษ) ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะปาฐกถาพิเศษเรื่อง อนาคตการปรองดองและสมานฉันท์สังคมไทย ด้วย
