ดร.เดชรัต ชี้อีสานศักยภาพสูง ใช้พลังงานลม แสงอาทิตย์ ชีวมวล
รวมพลังคนใช้พลังงานทางเลือกอีสานใต้ ที่สุรินทร์ กระตุ้นชาวบ้านประยุกต์ใช้พลังงานในชุมชน ง ดร.เดชรัต เผยอีสานศักยภาพสูง มีทั้ง ลม แดด ชีวมวล ตั้งเป้า 5 ปี ลดใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในอีสานลงได้ 1 ใน 4 ชี้ช่วงภัยพิบัติน้ำท่วม พลังงานทดแทนช่วยได้มาก
วันที่ 8 ตุลาคม มูลนิธิพัฒนาอีสาน จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงพลังงาน อบต.ตาอ็อง และภาคี 29 องค์กรร่วมจัดงานมหกรรมพลังงานอีสานใต้ “พลังงานชุมชน พลังแห่งการพึ่งตนเอง” เทอบาน เปรอเมนเตน เจียจนั๊บ (ทำได้ ใช้จริง ดีแท้) ณ ศูนย์ฝึกอบรมมูลนิธิพัฒนาอีสาน จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานในพิธีเปิดงาน
นายยุทธนา กล่าวถึงพลังงานของโลกที่เริ่มลดน้อยถอยลง จนกลายเป็นปัญหาหลักไปแล้ว ขณะที่ประเทศไทยยังต้องนำเข้าน้ำมัน นำเงินไปซื้อน้ำมันมาใช้จนเสียดุลการค้า รวมทั้งไม่มีวิสัยทัศน์ประเทศด้านพลังงาน แตกต่างจากประเทศสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งได้ประกาศวิสัยทัศน์ "Battery of Asia" เป็นพลังงานของอาเซียนอย่างชัดเจน
“ปี 2015 ก่อนเปิดประตูอาเซียน เหลืออีกไม่กี่ปีข้างหน้า รอบๆ ประเทศไทยประกาศตัวแล้วว่าจะดำเนินการในเรื่องอะไรบ้าง ถามว่า แล้วไทยยืนอยู่จุดไหน กำลังทำอะไรอยู่ ขนาดไฟฟ้าที่ใช้กันทุกวันนี้ เราต้องไปซื้อมาจากลาว ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสร้างเขื่อนในประเทศได้อีก”
รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ กล่าวถึงพลังงานกับการลดต้นทุนการผลิตว่า ตัวอย่างเล็กๆ เช่น การหันมาใช้เครื่องสูบน้ำ แทนระหัดวิดน้ำเข้าไร่นา นับเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรไปเรื่อยๆ แม้รัฐบาลจะสามารถออกนโยบายประกัน หรือจำนำราคาข้าวได้ แต่เมื่อไปดูที่ต้นทุนการผลิตกลับพบว่า เพิ่มสูงขึ้น หักลบกลบหนี้ เกษตรกรแทบไม่เหลืออะไร นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ส่วนดร.เดชรัต สุขกำเนิด หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน กล่าวว่าปัจจุบันการใช้พลังงานทดแทนของไทยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เฉพาะที่ภาคอีสาน พบว่า มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม น้ำ รวมทั้งการที่ชาวบ้านสามารถมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาพลังงานทางเลือก เพื่อสุขภาพของประชาชน
ดร.เดชรัต ยกตัวอย่าง ที่จ.ยโสธร มีการนำพลังงานลม ที่ได้จากกังหันลมมาช่วยลดต้นทุนการผลิต สูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร จนการทำไร่ทำนาสามารถทำได้ทุกฤดูกาลไม่ต้องรอฟ้ารอฝน รวมทั้งที่จ.สุรินทร์ นำน้ำเสียจากโรงงานขนมจีน หรือมูลสัตว์ มาผลิตแก๊สชีวิภาพในชุมชน เป็นต้น
“การใช้พลังงานชุมชนเข้ามาทดแทน เราตั้งเป้าว่า อีก 5 ปี ข้างหน้า สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในภาคอีสานลงได้ 1 ใน 4 จะเป็นการดีต่อคนทั้งประเทศ” ดร.เดชรัต กล่าว และว่า ในยามที่ประเทศประสบภัยพิบัติน้ำท่วม หากรู้จักนำพลังงานทดแทนมาใช้ก็จะช่วยได้มาก เช่น มีโซล่าร์เซลล์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มือถือ การเครื่องกรองน้ำอย่างง่ายๆ
ขณะที่นายเอี่ยม สมเพ็ง ตัวแทนเกษตรกรอินทรีย์ จากต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร กล่าวถึงการพึ่งตนเองด้วยการทำกังหันลมแบบหมุนรอบ กังหันลมแนวนอน และก๊าซชีวภาพในครัวเรือน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทดแทนการใช้ไฟฟ้า หรือน้ำมัน ว่า กรณีกังหันลมได้ทดลอง และประยุกต์อยู่ประมาณ 3 ปี กว่าจะได้ผล จนลดต้นทุนการผลิตได้ ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันสูบน้ำเข้านา ขณะที่บ่อหมักก๊าซชีวภาพ ช่วยในเรื่องลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ทั้งค่าแก๊สหุงต้ม และค่าไฟฟ้า
ทั้งนี้ งานมหกรรมพลังงานอีสานใต้ กิจกรรมในช่วงเช้ามีการขี่จักรยาน ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาล เพื่อรณรงค์ประชาชนให้หันมาใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ขณะที่กิจกรรมภายในงาน ตลอด 2 วัน มีการจัดแสดงนิทรรศการ พลังงาน สภาวะโลกร้อน และเทคโนโลยีพลังงาน อีกทั้งการสาธิต อบรมเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีพลังงานชุมชนของชุมชนและหน่วยงานต่างๆ
