คุกจินตนาบ้านกรูด บุกรุก-ปาสิ่งปฏิกูลงานเลี้ยงโรงไฟฟ้าฯ
ศาลฎีกาสั่งจำคุก “จินตนา แก้วขาว” แกนนำกลุ่มอนุรักษ์บ้านกรูด เป็นเวลา 4 เดือน ในคดีพาพวกบุกขว้างปาสิ่งปฏิกูลใส่โต๊ะจีนภายในงานเลี้ยงครบรอบ 3 ปี ของโครงการโรงไฟฟ้าหินกรูด เจ้าตัวถึงร่ำไห้ ยืนยันหลังออกจากคุกจะสู้ต่อ ในขณะที่กลุ่มอนุรักษ์เฮโลปิดถนนหน้าเรือนจำ ปราศรัยด่าแหลกกลุ่มนายทุน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ต.ค. ผู้พิพากษาศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุกนางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด ต. ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 4 เดือน ในข้อหาบุกรุกและรบกวนการครอบครองที่ดินของเอกชน และนำของโสโครกเปรอะเปื้อนบุคคลและทรัพย์สิน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หลังจากที่นางจินตนานำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ หรือกลุ่มคนเสื้อเขียวบุกรุกเข้าไปในงานเลี้ยงโต๊ะจีนจำนวน 2,000 โต๊ะ ของบริษัทยูเนี่ยนพาวเวอร์ ดีวีลอบเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ้านกรูด ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ เนื้อที่ 1,200 ไร่ ใน ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
คดีนี้นางจินตนาถูกฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2544 ร่วมกับพวกหลายคนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของบริษัท ดำเนินการโรงไฟฟ้าหินกรูด และร่วมกันใช้ของเน่าเสียสกปรกขว้างปาและเทลงบนโต๊ะอาหาร ซึ่งขณะนั้นกำลังจัดเลี้ยงครบรอบ 3 ปี ของโครงการโรงไฟฟ้า อันเป็นการกระทำผิดฐานบุกรุก มีการแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาอัยการได้ฟ้องร้องเป็นคดีในชั้นศาล โดยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 6 เดือน นางจินตนายื่นฎีกา โดยศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่านางจินตนาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ไม่มีเจตนาหลบหนี ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลตามสำนวนคำฟ้อง จึงมีคำพิพากษาให้จำคุก 4 เดือน ภายหลังอ่านคำพิพากษาบรรดากลุ่มอนุรักษ์จำนวนมากที่เดินทางมาให้กำลังใจถึงกับร่ำไห้โฮ
ต่อมาชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ซึ่งสวมเสื้อเขียว ถือธงเขียวเป็นสัญลักษณ์ พากันไปรวมตัวปิดถนนหน้าเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากศาลจังหวัดประมาณ 400 เมตร โดยนำไม้ไผ่มาจำลองเป็นกรงขังขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 2 เมตร พร้อมเขียนข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรมติดรอบกรงขัง ขณะที่แกนนำบางส่วนใช้รถติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีกลุ่มทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยระบุว่าการทำกิจกรรมของชาวบ้านกลุ่มเสื้อเขียวเป็นการปกป้องสิทธิชุมชน ทั้งนี้ชาวบ้านทั้งหมดจะปักหลักรอจนกว่าตำรวจจะนำตัวนางจินตนาเข้าไปควบคุมในเรือนจำ คาดว่าจะเป็นช่วงเย็นของวันเดียวกัน โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมารักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกในการใช้เส้นทางดังกล่าว
นางจินตนากล่าวด้วยน้ำตาว่า ที่ผ่านมาทำใจมาโดยตลอดว่าจะต้องมีวันนี้ เนื่องจากเป็นการต่อสู้ตามวิถีของประชาชนที่ยึดกติกาตามรัฐธรรมนูญ และจะต้องถูกมองว่าละเมิดสิทธิผู้อื่น แต่ไม่ได้มองว่าบางกิจกรรมกลุ่มทุนได้ละเมิดสิทธิของชาวบ้าน หลังออกจากคุกก็จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป เพราะเป็นเส้นทางชีวิตที่ตนเลือกเดินเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบ้านของตัวเอง ต้องไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ส่วนคนในครอบครัวก็รับสภาพได้ และฝากให้ตำรวจ สภ.ธงชัย ที่เป็นผู้ติดตามตนเป็นผู้ดูแลความปลอดภัย การต่อสู้ยาวนานกว่า 10 ปี ตนโดนทั้งคนร้ายยิงบ้านและถูกคุกคามทุกรูปแบบ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้แม้แต่คดีเดียว
“แค่ติดคุกยังมีวันออก เราไม่ได้ถูกยิงทิ้ง ไม่ได้เสียชีวิตเหมือนการต่อสู้ของนายเจริญ วัดอักษร ประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก แกนนำต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอกของบริษัทกัลฟ์อีเลคทริค แต่ไม่ทราบว่าในระหว่างที่ติดคุกจะต้องเจออะไรบ้างและได้ขอไม่ให้มีการอภัยโทษ ขอให้สังคมรับรู้บทบาทของการต่อสู้ และขอให้มองเรื่องความเป็นธรรมมากกว่าการใช้กฎหมายมาจัดการกับแกนนำเหมือนกลุ่มทุน” นางจินตนากล่าวและว่า เมื่อต่อสู้จริงๆ ด้วยใจก็ต้องติดคุก ตนไม่ได้ต่อสู้เหมือนบางกลุ่มที่เขียนโครงการของบประมาณมาขับเคลื่อน เมื่อสู้จริงก็ต้องเจ็บจริง เจอแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ

