ศปภ.ยันกทม.รอดน้ำท่วมหนัก นายกฯยันข้อมูลน่าเชื่อถือ
นายกฯ ยันข้อมูล ศปภ.น่าเชื่อถือ เตรียมปรับแจ้งเตือนภัยให้ดีขึ้น ชี้หากฉุกเฉินแถลงผ่านทีวีพูล ปลอดประสพโอดหวังดีแต่โดนด่า ส่วนประชานำทีม ศปภ.แถลง ยัน กทม.รอดน้ำท่วมหนัก แต่รอบนอกโดนแน่ เร่งระบาย 3 ทาง-ทำคันกั้นเพิ่มบริเวณคลองรพีพัฒน์แยกตะวันตก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนหมดความเชื่อมั่นต่อการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) หลังจากที่วานนี้เกิดความผิดพลาดในการแถลงข้อมูลของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งข้อมูลการแถลงดังกล่าวนั้นยังไม่ถือว่าเป็นข้อสรุปของที่ประชุม ศปภ. แต่เป็นเพียงการอัพเดทข้อมูลล่าสุด
"การพูดอาจจะตื่นเต้นไปด้วย แต่ในความคิดก็ยังอยากให้พี่น้องประชาชนได้ระวัง ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนตระหนกตกใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมยืนยันว่า การทำหน้าที่แจ้งเตือนภัยของ ศปภ.ยังมีความน่าเชื่อถือ แต่จากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็พร้อมจะนำไปปรับปรุงการแจ้งเตือนภัยให้มีความ ถูกต้องชัดเจนมากขึ้น และหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะใช้แนวทางการแถลงข่าวด่วนผ่านโทรทัศน์รวมการ เฉพาะกิจแห่งประเทศไทย(ทีวีพูล)
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ช่วงเช้านี้ ศปภ.จะหารือกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อวางแนวทางการป้องกันน้ำท่วมโดยจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องทำคันกั้นน้ำ เพิ่มเติมอีกชั้นเพื่อป้องกันพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในหรือไม่
สำหรับการสื่อสารข้อมูลเรื่องน้ำท่วมในพื้นที่กทม.นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การชี้แจงข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ จะยังเป็นหน้าที่ของ กทม. แต่หากเป็นสถานการณ์ในภาพรวมทั้งหมดนั้น ศปภ.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการชี้แจงข้อมูล
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยโดยรวมในขณะนี้ พบว่าปริมาณน้ำที่ไหลจากทางภาคเหนือของประเทศลงมานั้นปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว และไม่น่าจะสูงขึ้น ประกอบกับไม่มีปริมาณฝนตกลงมาซ้ำเติมในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งขุดลอกคูคลองพื้นที่ในฝั่งตะวันตกของ กทม.โดยเร็ว เพื่อเร่งผลักดันน้ำเหนือลงสู่แม่น้ำท่าจีน ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งขณะนี้ยังมั่นใจว่าพื้นที่ชั้นในของ กทม.จะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ตรวจสอบพื้นที่ ศปภ. ได้ชี้แจงผ่านสถานีระวังภัย ถึงการแถลงเตือนประชาชนในช่วงค่ำวานนี้(13ตค.)ว่า ที่แถลงไม่มีคำว่าอพยพ แค่ให้เก็บของได้แล้วเอาไม่อยู่ น่าจะเป็นบทเรียนสื่อสารภาวะวิกฤตที่คนขวัญผวาตกใจง่าย แต่พูดเตือนก็ด้วยความหวังดี ต่อไปจะระวังการพูดมากขึ้น และไม่ได้เป็นการแก้ตัว เพราะตั้งใจทำงานเต็มที่
"ขนาดพูดด้วยความหวังดี ก็ยังถูกด่า ด่าได้แต่ทุกคนปลอดภัยก็ยอมทน "
ทั้งนี้ นายปลอดประสพยั งยืนยันว่ากรุงเทพฯชั้นในมีความปลอดภัย อย่าตกใจ มีข่าวออกเยอะ แต่ด้วยหวังดีเป็นส่วนใหญ่ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งใน ศปภ. ย้ำที่เตือนเมื่อวานทำถูกต้องแล้ว และในวันนี้จะไปดูการซ่อมประตูระบายน้ำบ้านคลองพร้าว จ.ปทุมธานี ด้วยตัวเอง
ด้านนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษก ศปภ. ยืนยัน ศปภ.จะพยายามทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด เพื่อแจ้งข้อมูลให้ประชาชนได้ทราบโดยไม่ปิดบัง แต่ยอมรับสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้รุนแรงมาก ยืนยันทำงานเต็มที่แต่เอาชนะธรรมชาติไม่ได้ ชี้ จะปรับลดบทบาทของหน่วยงานใด เพื่อให้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่ได้ เพราะจะทำให้คนที่ตั้งใจทำงานเสียขวัญและกำลังใจได้
นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงยืนยันว่า พื้นที่กรุงเทพฯจะไม่เผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงอย่างแน่นอน เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจากนครสวรรค์ถึงชัยนาท จะมีปริมาณ 3,600 ลบ.เมตร ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 3,800 ลบ.เมตร ประกอบกับหลายเขื่อนได้เริ่มลดการระบายน้ำลงแล้ว
ดังนั้น จึงส่งผลให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 15-16 ต.ค.นี้ คาดว่าจะต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) เตรียมรับมือไว้ คาดว่าปริมาณน้ำจะอยู่ที่ 2.3-2.4 เมตรจากระดับน้ำทะเล ขณะที่คันกั้นน้ำของ กทม.มีระดับความสูง 2.5 เมตร
"น้ำจะมาถึง กทม.15-16 ต.ค.นี้ ที่ระดับ 2.3-2.4 เมตรเมื่อผ่าน กทม.ซึ่งจะไม่เกินนี้ ขณะที่คันกั้นน้ำของกทม.อยู่ที่ 2.5 เมตร เพราะฉะนั้น กทม.รอดแน่ ผมยืนยัน" อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยืนยันว่า กทม.จะไม่ถูกกระทบแน่นอน โดยศปภ.ให้ความสำคัญกับทางกรุงเทพมหานครขั้นสูงสุดเนื่องจากเป็นเมืองหลวง จากการเอาน้ำลง 3 ทาง ได้แก่ ทางตะวันออก ทางเจ้าพระยา และทางตะวันตก
"ขณะนี้ควบคุมได้ ไม่ท่วมแน่นอน"ผอ.ศปภ. กล่าว
สำหรับแนวป้องกัน กทม.ปัจจุบันมี 3 แนว คือ หลัก 6 อ.เมือง ปทุมธานี บริเวณเมืองเอก ทางผบ.ทบ.และแม่ทัพภาค 1 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจแนวคันกั้นน้ำวานนี้(14 ต.ค.) มั่นใจว่าสามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ, คลองทวีวัฒนาเชื่อมนครปฐม ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว และในวันนี้ได้ขยายฐาน เพิ่มความสูง คันกั้นน้ำบริเวณรังสิตตั้งแต่คลอง 1- คลอง 8 และทำเพิ่มอีกบริเวณคลองรพีพัฒน์แยกตะวันตก ตั้งแต่ประตูน้ำพระอินทร์ถึงคลองรพีพัฒน์ ระยะทาง 24 กม. คาดว่าใช้เวลา 2 วันแล้วเสร็จ แต่พื้นที่บริเวณรอบนอกกทม. และปริมณฑล ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ถูกกระทบแน่นอน . ![]()
