นายกฯ แสดงความเสียใจกรณีพนังกั้นน้ำนิคมฯ นวนครพัง
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยืนยันที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องพื้นที่เมืองหลวงของประเทศให้ดีที่สุด ส่วนการระบายน้ำก็จะพยายามดำเนินการให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีความเสียหายน้อยที่สุดเช่นกัน
วันนี้ (17ต.ค.54) เวลา 12.30 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำที่จะไหลมากรุงเทพมหานครภายหลังพนังกั้นน้ำบริเวณด้านทิศเหนือใกล้กับบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครได้พังเป็นทางยาวประมาณ 5 เมตร ส่งผลให้น้ำที่ท่วมสูงอยู่บริเวณด้านนอกแนวเขื่อนไหลทะลักเข้ามาภายในนิคมอุตสาหกรรมฯ อย่างรวดเร็ว และระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องว่า ยังมีจุดอื่น ๆ ที่ได้มีการทำแนวคันกั้นน้ำอยู่ ซึ่งตรงนี้จะได้ไปเร่งสำรวจความแข็งแรงเพิ่มขึ้น โดยวันนี้ได้มอบหมายให้ทหารช่างเข้าไปดำเนินการแล้ว โดยเป็นบูรณาการทุกเหล่าทัพในการระดมทุกสรรพกำลังของกองทัพที่มีอยู่ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะช่วยดูแล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าในจุดต่าง ๆ ที่ได้ทำแนวคันกั้นน้ำไว้ มีความแข็งแรงรวมถึงจังหวัดที่เป็นรอยต่อกับกรุงเทพฯ ด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์พนังกั้นน้ำบริเวณด้านทิศเหนือใกล้กับบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครได้พังส่งผลให้น้ำที่ท่วมสูงอยู่บริเวณด้านนอกแนวเขื่อนไหลทะลักเข้ามาภายในนิคมอุตสาหกรรมฯ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลได้มีการเตรียมการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากเข้าไปดำเนินการอยู่ก่อนแล้วหลายวัน แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่เข้ามาประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงและมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนส่งผลให้ปริมาณน้ำมีจำนวนมากและไหลเข้ามาแรงเกินกว่าที่แนวคันกั้นน้ำที่ได้มีการดำเนินการไว้จะสามารถรองรับได้ ขณะเดียวกันได้มีการสั่งการให้เตรียมการอพยพประชาชนที่อยู่ภายในอุตสาหกรรมและบริเวณใกล้เคียงดังกล่าวแล้ว รวมถึงการเข้าไปช่วยเหลือในการเก็บกู้ในเรื่องของอุปกรณ์และเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมนวนครก็ได้มีการทำงานประสานร่วมกับทางพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แต่อาจไม่ได้มีการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบทันที เพราะเนื่องจากเราต้องทำงานในการแก้ไขปัญหาในขณะนั้น ที่จะต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยทั้งในเรื่องของการอพยพประชาชน และการหาแนวทางที่จะช่วยเก็บกู้ฟื้นฟูในเรื่องของเครื่องจักร ตลอดจนการแจ้งเตือนภัยอยู่เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่อยู่ภายในภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อที่จะมองภาพรวมทั้งหมดในการที่จะหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือนักธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยทั้งหมด โดยเบื้องต้นจะรวบรวมข้อมูลอุตสาหกรรมทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือในส่วนของอุตสาหกรรมที่มีระบบประกันภัย และอุตสาหกรรมที่ไม่มีระบบประกัน ดังนั้นตรงนี้เราจะต้องดูว่าในส่วนของรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอย่างไร รวมถึงจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรในการที่จะเก็บกู้ฟื้นฟูในส่วนของอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ที่ได้รับความความเสียหายไป ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวจะได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบมาหารือ ส่วนตัวเลขความเสียหายทั้งหมดเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำเรื่องรายงานเข้ามาให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งในบริเวณฝั่งดอนเมืองและสายไหมถือเป็นจุดเสี่ยงหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเข้าไปประเมินในส่วนกรณีของนิคมอุตสาหกรรมนวนครก่อน แต่อย่างไรก็ตามเรายังยืนยันที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องในส่วนเมืองหลวงหรือกรุงเทพฯ ของประเทศไทยให้ดีที่สุด ส่วนการระบายน้ำก็จะพยายามดำเนินการให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีความเสียหายน้อยที่สุด
