ดันอุตสาหกรรมไทย ใช้ "กรีน โปรดักส์" ช่วยลดโลกร้อน
อุตสาหกรรมไทยต้องตระหนักลดคาร์บอนแข่งตลาดโลก พบข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในงาน THAILAND LAB 2015 วันที่ 9-11กันยายน 2558 ที่ EH 105 และ EH 107 ณ ไบเทค บางนา
รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ รองศาสตราจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ประธานคลัสเตอร์พลังงงาน และ สิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรรมการสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากภาวะวิกฤตเรือนกระจกผนวกกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก อนาคตมนุษย์จะต้องพบภาวะวิกฤตการขาดแคลนน้ำ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปริมาณใช้น้ำเพิ่มขึ้น 2 เท่า ของอัตราการเพิ่มประชาการในศตวรรษที่ผ่านมา และภายในปี 2025 การใช้น้ำในประเทศกำลังพัฒนาจะเพิ่มขึ้น 50 % และประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มขึ้น 25 % และประชากรโลก 1.9 พันล้านคน จะอยู่ในประเทศที่มีการขาดแคลนน้ำ และ2ใน3ของประชากรโลกจะอยู่ในภาวะวิกฤตขาดน้ำ
จากเหตุการณ์นี้ส่งผลประทบอย่างมาก ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านผลผลิตทางการเกษตรในปีพ.ศ. 2623 ครั้งใหญ่ โดยประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำสูง สำหรับประเทศไทยในปี 2550 ประเทศไทยปล่อยก๊าซคาร์บอน 277.5 ล้านตันเป็นอันดับ 23 ของโลก ดังนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ และนั้นคือถึงเวลาการปรับตัวของทุกภาคส่วนของประเทศที่จะต้องดำเนินการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้บรรลุเป้าหมาย ประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียน ปล่อยก๊าซเรือนกระจก สูงเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย มีค่า GHG emission 22% ส่วนอินโดนีเซีย 37 %
ส่วนมาตรการที่ลดปริมาณคาร์บอนที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยคือ การควบคุการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่อาจส่งผลต่อการลดขีดความสามารถอุตสาหกรรมไทย คือ 1.สินค้าจะต้องแสดงค่าลดคาร์บอนด์ Carbonfootprint 2) Sectorial approach อุตสาหกรรมที่ปล่อย GHG สูง
รศ.ดร.ธำรงรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ทิศทางตลาดโลกอนาคตกำลังเปลี่ยนไป สินค้าและผลิตภัณฑ์จะต้อง เป็น กรีน โปรดักส์ จะมีแต่ Eco-products และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO หรือใบประกาศ และการลดคาร์บอนในการผลิต ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ จนถึงขบวนการใช้งานเมืองถึงมือผู้บริโภค โดยนำขบวนการ การประเมินวัฏจักรชีวิต ( Life cycle assessment ) หรือ LCA มาใช้ และมีเครื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับอุตสาหกรรมปัจจุบันการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมนั้น จะมีมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO 14000 รับรอง แต่ด้วยเหตุกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมโลก กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ สินค้าต้องติดฉลากแสดงถึงการลดปริมาณคาร์บอนตามขบวนการLAC หรือติดฉลาก Carbon ในอนาคตดังนั้นอุตสหกรรมไทยจะต้องปรับตัว ปัจจุบันไทยมีการนำร่องใช้แค่ 25 โรงงาน จำนวน 28 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่จะมีเพียง ติดฉลากรับรองสินค้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นฉลากเคลม จำนวน 1,388 ผลิตภัณฑ์ จาก 389 บริษัท
ดังนั้นการทิศทางอุตสาหกรรมไทย จะต้องทำความเข้าใจเรื่องการมีฉลาก Carbon Footprint จะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่อย่างเร่งด่วนเช่นกัน และการออกแบบสีเขียว สำหรับภาคเอกชนที่นำขบวนการประเมินวัฏจักรชีวิต LCA มาใช้ในอุตสาหกรรมที่น่าจับตา
ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเรียนรู้ข้อมูลดี ๆ พัฒนาการต่างเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เครื่องมือทางห้องปฏิบัติการ การถ่ายทอดโนฮาวใหม่ๆที่งาน ที่งาน Thailand LAB 2015 และ LIFE Sciences Asia 2015 ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 9-11กันยายน 2558 ที่ EH 105 และ EH 107 ณ ไบเทค บางนา โดยบริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิกฟิก จำกัด (VNU Exhibitions Asia Pacific) ได้ร่วมมือกับ สมาคมต่างๆ ทั้งในประเทศและในภูมิภาค จัดงานประชุมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานวิจัย งานวิเคราะห์และตรวจสอบ ตลอดจนด้านนวัตกรรมเครื่องมือแล็บ
สามารถลงทะเบียนเข้าชมงาน ได้ที่ www.thailandlab.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd. Tel: +662-670-0900 Ext. 201-209 Fax: +662-670-0908 Email:[email protected] Website: www.thailandlab.com Facebook Page:www.facebook.com/ThailandLab Twitter: twitter.com/ThailandLAB YoutubeChannel:www.youtube.com/ThailandLab
