แพทย์ยันยอดตาย 20 เจ็บ 125 เหตุระเบิดราชประสงค์
แพทย์ รพ.ตร.ยัน ยอดตาย 20 บาดเจ็บ 125 เหตุระเบิดราชประสงค์-ตั้งศูนย์ประสานงานตรวจอัตลักษณ์คนเจ็บ-ตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีญาติของผู้บาดเจ็บที่ประสบเหตุระเบิดบริเวรแยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บ รวมถึงติดตามหาญาติที่คาดว่าจะเป็นผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งญาติชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาเพื่อสอบถามและตามหาตัวผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันทาง รพ.ตำรวจ ได้ทำการจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการและให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครเป็นล่ามช่วยในการสื่อสารอีกทางหนึ่งด้วย
พล.ต.ต.วิฑูรย์ นิติวรางกรู รองแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว เนื่องจากทาง รพ.ตำรวจอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกส่งเข้ามารักษาตัว ซึ่งทาง รพ.ตำรวจ มีการจัดทำแผนให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกันในทุกส่วน โดยการทำงานเมื่อคืนที่ผ่านมาจะแบ่งผู้บาดเจ็บออกเป็น 3 ส่วน คือผู้บาดเจ็บไม่สาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย และผู้บาดเจ็บกหนักที่ต้องรีบเข้าผ่าตัด
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งยอดผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวเข้ามา 39 ราย กลับบ้านได้ 4 ราย เสียชีวิตก่อนถึง รพ.ตำรวจ 4 ราย เข้าพักรักษาที่ รพ.ตำรวจ 6 ราย ที่เหลืออีก 23 ราย ได้ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง โดย 6 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจนั้น มีอาการบาดเจ็บหนักอยู่ในห้องไอซียู 3 ราย ผู้บาดเจ็บหนักรายแรกถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณช่องท้อง มีเลือดออกได้รับการผ่าตัดแล้ว ผู้บาดเจ็บหนักรายที่ 2 เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ โดนสะเก็ดระเบิดเข้าช่องท้อง ต้องผ่าตัดลำใส้ และผู้บาดเจ็บหนักรายที่ 3 กระดูกขาหัก 2ข้าง
พล.ต.ต.วิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารข้อมูลส่งกลับและรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของ รพ.ตำรวจ ล่าม และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล5 มาร่วมเก็บข้อมูล โดยศูนย์นี้ก็จะทำการดูแลผู้ป่วย ติดต่อญาติและทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่งต้องพิสูจน์ให้รู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าเป็นผู้ป่วยต้องมีข้อมูลให้ญาติว่าอยู่ที่ไหน และจะเป็นศูนย์ประสานงานกับ โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อประสานรายชื่อผู้ป่วย รวมไปถึงอาการ ถ้าหากญาติมาแจ้งแต่ไม่มีรายชื่ออยู่ ทางตำรวจก็จะทำการสอบถามรายละเอียดข้อมูลและบันทึกไว้เป็นข้อมูล โดยขณะนี้จากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังมีอยู่อีก 8 ราย ที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนรายชื่อที่ระบุตัวคนในขณะนี้ก็ยังไม่แน่นอน สำหรับเรื่องของล่ามที่ช่วยในเรื่องการสื่อสารจะมีการจัดเวรไว้วันละ 3 คน ขณะนี้มีบามอาสามาลงชื่อแล้ว 80 คน ทั้งล่ามภาษาจีนและอังกฤษ คาดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว ขณะที่ล่ามที่จะแปลภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอื่นนั้นต้องขอประเมินสถานการณ์ก่อน นอกจากนี้จะมีภาพถ่ายรวมไปถึงภาพสิ่งของ ของผู้บาดเจ็บมาให้ญาติได้ดูเพื่อช่วยในเรื่องการระบุอัตลักษณ์ด้วย
พล.ต.ต.วิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า การพิสูจน์อัตลักษณ์นั้นก็มีการเก็บข้อมูลจากสิ่งของที่ติดมากกับผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต การพิมพ์ลายนิ้วมือ พิสูจน์จากฟัน และดีเอ็นเอ นอกจากนี้ทาง รพ.ตำรวจได้รับการประสารงานจากสถานทูตเรื่องของบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติแล้วบางส่วน
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิต 20 คน แบ่งเป็นคนไทย 5 คน , ชาวจีน 2 คน , ฮ่องกง 2 คน , มาเลเซีย 2 คน , สิงคโปร์ 1 คน ยังไม่ทราบสัญชาติ 8 คน เป็นชาย 2 หญิง 5 คน เด็กหญิง 1 คน
ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 125 คน แบ่งเป็นชาวจีน 28 คน , มาเลเซีย 2 คน , ฮ่องกง 2 คน , ไทย 42 คน , ญี่ปุ่น 1 คน , สิงคโปร์ 2 คน , อินโดนีเซีย 1 คน , ฟิลิปินส์ 1 คน , โอมาน 1 คน , มัลดีฟส์ 1 คน และยังไม่ทราบสัญชาติอีก 43 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา12.00น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งตัวแทนมามอบดอกไม้และเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ โดนไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ขอบคุณข่าวจาก

