10 เหตุที่คนกรุงควรทิ้งบ้านก่อนตีนปียก!
นี่คือประสบการณ์ความคิดของ “ผู้ที่อพยพออกมาจากบ้านก่อนตีนเปียก” ที่เผยแพร่ใน www.prasong.com ซึ่งออกตัวว่าไม่ได้เป็นนักวิชาการ ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องภัยพิบัติ แค่ติดตามสถานการณ์และสังหรณ์ใจว่าน้ำท่วมครั้งนี้น่าจะร้ายแรงที่สุดในชีวิต และน่าจะเป็นสุดยอดวิกฤตที่จะยืดเยื้อยาวนาน
............................
นานแค่ไหนไม่มีใครตอบได้ แต่ตัวค่อนข้างเชื่อว่า ในกรุงเทพฯ อาจกินเวลาสองถึงสี่สัปดาห์เพราะความหนาแน่นของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ การตั้งบ้านเรือนขวางทางน้ำ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนเสริมให้น้ำไหลลงทะเลได้ช้าลง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ค่อนข้างชัดเจน กรุงเทพฯ โดนมวลน้ำมหึมาถล่มแน่นอน เราต้องยอมปล่อยให้น้ำผ่านกรุงเทพฯ ลงสู่อ่าวไทยไม่มีใครปกป้องกรุงเทพฯ ให้แห้งสนิทได้จริงๆ หรอก
ถึงนาทีนี้ จึงอยากแจ้งเตือนชาวกรุงเทพฯ ทั้งหลายว่า…อย่าประเมินศักยภาพตัวเองสูงเกิน อย่าประเมินความสามารถของน้ำต่ำไป ออกมาได้ก่อนน้ำท่วมก็ควรออก ออกมาได้ก่อนตีนเปียกก็ควรออก โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมสูงและไม่มีภารกิจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้
1. โดยธรรมชาติของคนเมืองที่เสพติดความสะดวกสบายกันจนชินต้องยอมรับว่า พวกเราอ่อนแอและขาดภูมิคุ้มกันเรื่องความยากลำบากอยู่พอสมควรจึงควรประเมิน ตัวเองว่า…เราจะสามารถอยู่ในบ้านที่ไม่มีน้ำสะอาดและไม่มีไฟฟ้าได้นานเกิน 2 สัปดาห์หรือไม่ เพราะหากน้ำท่วมหนักมาก น้ำประปาสะอาดจะขาดแคลน ไฟฟ้าจะโดนตัด
วัยรุ่นวัยทำงานอาจจะแข็งแรงพออึดได้ ทนได้ สู้ไหวแต่สำหรับเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ คนป่วย คนชราจะเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสไม่น้อย…โปรดอย่าเสี่ยง
2. การอพยพเมื่อน้ำท่วมแล้วมีความเสี่ยงต่อการโดนไฟฟ้าดูดไฟฟ้าช็อต บ้านเรายกคัทเอาท์ แต่เราไม่รู้ว่าบ้านอื่นยกคัทเอาท์หรือไม่ ไฟฟ้าที่รั่วลงน้ำก็มองไม่เห็นอีกต่างหาก จึงเป็นความเสี่ยงร้ายแรงถึงชีวิตที่ไม่สามารถป้องกันได้เลยและก็ปรากฏข่าว ว่ามีผู้อพยพโดนไฟฟ้าช็อตตกเรือจมน้ำไปแล้วด้วย
3. น้ำที่ท่วมครั้งนี้ไม่ใช่น้ำฝนสะอาดๆ แต่เป็นน้ำที่ไหลผ่านฟาร์มที่มีซากหมูซากไก่จมน้ำตายและไหลผ่านนิคม อุตสาหกรรมมาแล้วหลายแห่ง สารพันน้ำทิ้งน้ำเสียน้ำเน่าไหลรวมกันมาหมด
หลายคนพูดตรงกันน้ำที่เอ่อขึ้นมาโชยกลิ่นเหม็นมาก ความสกปรกของน้ำไม่น่าจะปลอดภัยต่อการเดินลุยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีบาด แผลบนร่างกาย
4. สารพัดสัตว์ทั้งมีพิษไม่มีพิษไหลมาพร้อมน้ำท่วม งู ตะขาบ ปลิง ยังทำอันตรายผู้ประสบภัยได้เสมอ อย่าลืมว่า น้ำที่ท่วมไม่กิ๊งใสเหมือนในสระว่ายน้ำนะจ๊ะ
5. ออกมาตั้งแต่น้ำยังไม่ท่วม เราสามารถหอบข้าวของเครื่องใช้จำเป็นออกมาได้มากกว่า เราจะมีขวัญและกำลังใจดีกว่า ทุลักทุเลน้อยกว่า และสามารถฟื้นฟูเยียวยาตัวเองได้รวดเร็วกว่า
เมื่อต้องตกอยู่ในสถานภาพผู้ประสบภัยรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่คนที่ต้องนั่งเรืออพยพพกข้าวของมาได้แค่ 1-2 กระเป๋าเท่านั้น
6. เมื่อย้ายมาอยู่นอกเขตพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ความเครียดและวิตกกังวลจะลดลง แทนที่จะต้องนอนไม่หลับกระส่ายกระสับ เพราะลุ้นว่าน้ำจะมาประชิดตัวเวลาใด เราจะนอนอิ่มขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น ทำให้สมองปลอดโปร่ง สุขภาพจิตไม่เสีย มีแรงกายแรงใจและแรงสมองในการทำงานหรือช่วยคิดแก้ปัญหาอื่นๆ ของตัวเองและของสังคมได้อีก
7. คนกรุงเทพฯ ผลิตอาหารเองไม่ได้ เมื่อเส้นทางการขนส่งอาหารถูกตัดขาดเพราะน้ำท่วมจะเป็นอย่างไร โอเค อาจจะขนส่งด้วยเฮลิคอปเตอร์ได้ แต่จะปริมาณเพียงพอสำหรับผู้ประสบภัยจำนวนนับไม่ถ้วนหรือไม่…น่าคิด อีกทั้งน้ำที่ท่วมก่อนถึงกรุงเทพฯ ก็ทำให้หมูและไก่จมน้ำตายไปเยอะมากแล้ว
8. เมื่อประเมินสถานการณ์เลวร้ายขั้นสูงสุด ยอมอพยพออกมาแล้วสุดท้ายมันไม่เกิดขึ้นจริงอย่างที่ประเมิน เราสามารถกลับเข้าไปบ้านตัวเองได้เสมอ
ตรงกันข้าม… เมื่อประเมินสถานการณ์ในแง่ดีเกินไป เลือกที่จะไม่อพยพแล้วสุดท้ายมันรุนแรงเลวร้ายกว่าที่คาดคิดเราจะบอบช้ำเยอะ เรากลับไปบ้านก็ไม่ได้ เราหาที่พักใหม่ก็ไม่ทันและอาจจะต้องเป็นผู้อพยพซ้ำซาก…หากศูนย์พักพิงที่ เราเข้าไปลี้ภัยโดนน้ำท่วมอีกรอบ
9. เขตเมืองหลวงประชากรหนาแน่นมากถึงมากที่สุด ถ้าไม่ค่อยๆ ทยอยกันออกมา แต่อพยพพร้อมกันในนาทีสุดท้ายจะกลายเป็นความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม ความวุ่นวายนี้เองจะซ้ำเติมปัญหาให้หนักหนาสาหัสเข้าไปอีกและพลอยทำให้เจ้า หน้าที่จัดการแก้ไขสถานการณ์ได้ยากเย็นกว่าเดิม
10. ประเด็นสำคัญที่สุด ถ้าเราอยู่รอดปลอดภัยนอกพื้นที่น้ำท่วม นอกจากจะช่วยลดจำนวนผู้ประสบภัยและลดภาระการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ แล้วเรายังสามารถติดต่อประสานขอความช่วยเหลือแทนคนที่ติดอยู่ในดงน้ำท่วมหรือกลับเข้าไปเป็นอาสาสมัครช่วยฟื้นฟูหลังน้ำท่วมได้อีก
ทั้งหมดนี้เขียนขึ้นเพื่อตักเตือน มิใช่สร้างความตื่นตระหนก ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนล้วนๆ อย่าเพิ่งรีบหลงเชื่อหรือรีบคัดค้านในทันที
ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณตนเองไตร่ตรองอีกครั้ง ด้วยความปรารถนาดีจาก "คนที่อพยพออกมาก่อนตีนเปียก" .