ปชช.สับสนข้อมูลรบ.-กทม.-นักวิชาการ ยันไม่วางใจว่าเขตไหนไม่ท่วม

พบข้อมูลที่ภาครัฐประกาศกับสภาพที่เป็นอยู่จริงตรงข้ามกันตลอด ทำให้ประชาชนต้องพึ่งตนเองในการเลือกรับข้อมูลข่าวสาร และเตรียมการกันเอง...
จากกรณีที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการระบายน้ำท่วมในกทม. โดยระบุว่า เขตที่น่าจะรอดจากน้ำท่วม 19 เขตคือ บางขุนเทียน บางบอน ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ จอมทอง ภาษีเจริญ วัฒนา ดินแดง สาทร ราชเทวี พญาไท ปทุมวัน ป้อมปราบฯ สวนหลวง ประเวศ ห้วยขวาง วังทองหลาง บางซื่อ บางกอกน้อย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจในเขตบางซื่อ น.ส.อรพรรณ จรัสสิงห์ อายุ 39 ปี อาชีพพนักงานเอกชน อาศัยอยู่ในเขตบางซื่อ (ซอยโรงเรียนอนุบาลเจริญจรัมพรวิทยาเก่า) เป็นครอบครัวใหญ่ประกอบด้วยผู้สูงอายุ 4 คน เด็กเล็ก 1 คน และสุนัข 4 ตัว กล่าวว่า ภายหลังจากที่รองผู้ว่าฯ ออกมาเปิดเผยว่าพื้นที่บ้านตนเองมีโอกาสจะรอดจากน้ำท่วมนั้น ตนและครอบครัวก็โล่งใจในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ยังติดตามข่าว ตรวจสอบระดับน้ำอยู่ทุกวัน อีกทั้งนี้ ก็ได้เตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูงไว้แล้ว พร้อมที่จะอพยพหากสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มหนักขึ้น
“ในเขตบางซื่อด้านหน้าจะได้รับผลกระทบจากคลองประปาที่มีปริมาณน้ำเอ่อล้นสูงขึ้น ส่วนด้านหลังต้องคอยเฝ้าระวังคลองเปรมประชากรที่มีระดับสูงขึ้นทุกวันเช่นกัน บ้านหลายหลังในละแวกนี้มีระดับต่ำกว่าคลองประปาจึงได้รับผลกระทบไปบ้างแล้ว ต้องยอมรับว่าเมื่อติดตามข่าวและเฝ้าระวังระดับน้ำแล้วสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจและมีโอกาสท่วมได้ ซึ่งขณะนี้จะเชื่อคำประกาศจากรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะปริมาณน้ำในพื้นที่ค่อนข้างขัดแย้ง ชาวบ้านต้องติดตามระดับน้ำและฟังการเตือนภัยจากสำนักงานเขตบางซื่อว่าจะประกาศให้อพยพเมื่อใด”
น.ส.อรพรรณ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ชาวบ้านหนักใจที่สุดขณะนี้ คือ การแจ้งข้อมูลต่างๆ ของรัฐบาล กทม. และนักวิชาการล้วนมีตัวเลข และรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น ปริมาณมวลน้ำก้อนใหญ่ พื้นที่เขตที่น้ำอาจไม่ท่วม ทางเดินของน้ำ การประกาศอพยพ กระทั่งวันประกาศหยุดราชการ ล้วนสร้างความสับสน ข้อมูลแตกต่างและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ประชาชนที่ติดตามข่าวสาร เพื่อการเตรียมตัวและตัดสินใจเป็นไปได้อยากขึ้น และยิ่งเป็นการเพิ่มความเครียดมากขึ้นด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 19 เขตเช่นกัน ซึ่งจากการสังเกตพบว่า ร้านค้าแต่ละร้าน ได้ก่อกำแพงปูนเพื่อป้องกันน้ำท่วม ขณะเดียวกันบางร้านก็ได้นำกระสอบทรายมากั้น เพื่อป้องกัน บางร้านวางกระสอบทรายสูง 20 ถึง 30 เซนติเมตร ขณะที่บางร้านวางกระสอบทรายสูงถึง 50 เซนติเมตร
น.ส.สุวรรณี สาระพิล แม่ค้าร้าน MORE จำหน่ายเสื้อผ้าสตรี ที่ สยามสแควร์ซอย 3 ใต้โรงหนังลิโด้ กล่าว ว่า หลังทราบข่าวว่า เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นเขตที่ตั้ง ของร้าน อาจจะไม่ถูกน้ำท่วม ก็รู้สึกดีใจ ถ้าน้ำไม่ท่วม เพราะจะได้ไม่ลำบาก แต่เชื่อข่าวนี้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะมีข่าวออกมาเยอะมากในแต่ละวัน แต่จำเป็นต้องฟังเพื่อเตรียมตัวรับมือได้ทัน ส่วนการทำพนังของทางร้าน ทางเจ้าของสถานที่เป็นผู้จัดทำเพราะเป็นการป้องกันร้านค้าในพื้นที่เสียหาย ในส่วนของการค้าขาย น.ส.สุวรรณี ยอมรับว่า ค่อนข้างซบเซาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเกิดเหตุน้ำท่วม ลูกค้าก็กังวลไม่กล้าออกมาจับจ่ายซื้อของเหมือนช่วงก่อนเกิดน้ำท่วม เพราะส่วนใหญ่ต้องเก็บเงินไว้ใช้มากกว่า
ด้าน น.ส.วรรณา นาพนัง แม่ค้าขายประเป๋าแบรนด์เนม ร้าน i-BRANDNAME กล่าวว่า ยังไม่เชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วม จนกว่าน้ำจะหมด แต่ต้องระวังต่อไป เพราะหลายเขตที่บอกว่าจะไม่ท่วม แต่สุดท้ายแล้วน้ำก็ท่วมทั้งหมด เพราะน้ำ ไม่สามารถกั้นได้ พร้อมยอมรับว่ารายได้ลดลงเนื่องจากลูกค้าลดลง
"รู้สึกยังไม่เชื่อจนกว่าน้ำจะหมด ไม่งั้นก็ไม่เชื่อค่ะ ก็ต้องระวังต่อไป เพราะว่าหลายเขตที่บอกว่าน้ำจะไม่ท่วม สุดท้ายก็ท่วม เพราะไม่สามารถกั้นน้ำได้อยู่แล้ว จนกว่าน้ำจะไหลหมดถึงจะสามารถวางใจได้ ไม่งั้นก็คงไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มน้ำท่วม คนก็ไม่เดิน ช่วงนี้คนก็ไม่ใช้สตางค์ด้วย"น.ส.วรรณา กล่าว
ส่วนพื้นที่ฝั่งธนบุรีซึ่งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ศปภ.กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครน้ำจะท่วมหนักเป็นวงกว้างถึงร้อยละ 80 ถึง 90 ทำให้ประชาชนย่านฝั่งธนบุรีสับสนในข่าวสารของทางราชการ และบางส่วนไม่ได้เตรียมการอพยพหรือเก็บของให้พ้นจากที่สูง
จากการตระเวณสถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาษีเจริญ ซึ่งกรุงเทพมหานครระบุว่าจะรอดพ้นจากน้ำท่วม พบว่าพื้นที่ริมคลองบางแวก บางเชือกหนัง พระยาราชมนตรี ช่วงซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 ด้านที่จะออกถนนกาญจนภิเษก น้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็วตั้งแต่คืนวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้หมู่บ้านจัดสรรหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมระดับสูงถึงเข่า ขณะที่บนถนนน้ำท่วมสูงช่วงตั้งแต่ใกล้หน้าวัดมะพร้าวเตี้ยไปออกถนนกาญจนาภิเษก รวมทั้งถนนพุทธมณฑลสาย 1 ถนนตัดไปออกสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนสมเด็จพระบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน น้ำท่วมสูงจนบางจุดรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้
“ฟังจากข่าว ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วมเข้าเขตภาษีเจริญ แต่น้ำก็ท่วมเข้าตลาดวัดไชยฉิมพลี บ้านใกล้คลองน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ แต่น้ำท่วมตลาดและซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 ชาวบ้านคาดไม่ถึงเพราะฟังข่าวมาว่า กมท จะระบายน้ำออกคลองภาษีเจริญได้ทัน” แม่ค้าในตลาดวัดไชยฉิมพลี แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กล่าว
“รู้ว่าน้ำจะท่วม ชาวบ้านก็เก็บของขึ้นบนชั้น 2 กันหลายวันแล้ว แต่พอมีข่าวออกมาว่าน้ำจะไม่ท่วมเขตภาษีเจริญ ก็เลยไม่ได้เตรียมตัวอพยพไปไหน ไม่ได้หาซื้อทราย ซื้อกระสอบทรายมาเตรียมไว้ ติดตามข่าวตลอดแต่ไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร เพราะสับสนเดี๋ยวท่วม เดี๋ยวไม่ท่วม” ชาวบ้านย่านแขวงบางแวกกล่าว
สำหรับเขตภาษีเจริญมีพื้นที่ติดต่อกับเขตตลิ่งชันซึ่งเป็นเขตพื้นที่น้ำท่วมหนัก และติดต่อกับเขตบางแคซึ่งเป็นเขตที่ประสบกับน้ำท่วม มีคลองหลายสายเชื่อมไปออกคลองภาษีเจริญซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่ ที่ กทม ระบายน้ำไปออกไม่น้ำท่าจีนที่จังหวัดสมุทรสาคร ล่าสุดเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน ระดับน้ำสูงขึ้นทำให้บ้านเรือนริมคลองสาขาเล็กๆ เช่นคลองบางด้วน คลองบางจาก น้ำท่วมไหลเข้าบ้านเรือนริมคลอง ส่วนพื้นที่ต่ำเคยเป็นสวนมาก่อน ย่านบางแวก คลองขวาง น้ำท่วมสูงจนชาวบ้านขนข้าวของออกจากบ้านแล้ว ขณะที่ส่วนหนึ่งยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเพราะคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่น้ำท่วมนี้มาก่อน ล่าสุดเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน น้ำท่วมถนนซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 เพิ่มขึ้นอีกหลายจุดจนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ และช่วงสายเป็นต้นมาได้ได้ท่วมถนนเพชรเกษมฝั่งตรงข้ามเขตภาษีเจริญ เป็นช่วงๆไปจนถึงเขตติดต่อกับตลาดบางแค เขตบางแค
ส่วนที่แขวงบางไผ่ เขตบางแค น้ำท่วมถนนในซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม มาหลายวันแล้ว แต่จากการตระเวณสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่ในหม่บ้าน น้ำท่วมสูงขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนประชาชนอพยพออกไปอาศัยที่อื่นแล้วจำนวนหนึ่ง
“รู้จากข่าวว่าน้ำจะท่วมแน่ คนทำงานในเมืองออกไปหาที่อยู่กันก่อนแล้ว แต่ชาวบ้านซึ่งเป็นคนพื้นที่ยังอยู่ก็มาก ฟังข่าวแรกๆ ก็สับสนว่าน้ำจะท่วมตรงไหนของเขตบางแคบ้าง เพราะพื้นที่กว้าง บางคนนึกว่าย่านเดอะมอลล์ บางแค น้ำ
คงท่วมซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าจะท่วมหรือเปล่า ”ชาวบ้านในหมู่บ้านเศรษฐกิจ กล่าว
ขณะที่ นายธนูศิลป์ ปานเดช เจ้าหน้าที่โยธา 6 หัวหน้าชุดคุมงานระบายน้ำ สำนักงานเขตบางซื่อ กล่าวว่า ชุดคุมงานระบายน้ำได้ติดตามตรวจสอบระดับน้ำทุกวันและตลอดทั้งวัน ซึ่งพบว่าระดับน้ำในคลองเปรมประชากรสูงขึ้นชั่วโมงละ 5 ซ.ม. เนื่องจากการประปานครหลวงทำการเจาะกาลักน้ำ หรือไซฟ่อน เพื่อเร่งระบายน้ำลงคลองบางเขน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองประปาและคลองเปรมประชากรมีปริมาณสูงขึ้น และน้ำบางส่วนไหลเข้าท่วมชุมชนริมคลองและหมู่บ้านในพื้นที่เขตบางซื่อแล้ว
“แม้จะมีปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทีมคุมงานระบายน้ำ เขตบางซื่อยังมั่นใจว่าระดับที่ตั้งของเขตบางซื่ออยู่ค่อนข้างสูงและอยู่ใกล้กับเครื่องสูบน้ำใต้อุโมงค์บางซื่อ ซึ่งสามารถเร่งสูบน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อควบคุมระดับน้ำได้และจะไม่ท่วมขังสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน”
สำหรับพื้นที่เขตดินแดง พนักงานธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย บริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิต กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะประกาศว่าพื้นที่เขตดินแดงน่าจะรอดจากน้ำท่วมก็ตาม แต่บ้านของพนักงานบริษัทหลายคนก็ถูกน้ำท่วมไปแล้ว บางรายเดินทางออกมาทำงานยากลำบากมาก
“พนักงานหลายคนต้องเดินทางด้วยเรือ มาต่อด้วยรถทหารและนั่งรถเมล์อีกหลายทอดกว่าจะมาถึงที่ทำงาน ส่วนเรื่องความไว้วางใจในระดับน้ำนั้นก็ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามทิศทางของน้ำต่อไป เพราะก็ท่วมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่เชื่อว่าแม้น้ำท่วมมาถึงหน้าบริษัทจริงก็คงมีระดับไม่สูงนัก และไม่น่าเป็นอุปสรรคในการทำงาน” พนักงานบริษัทไทยเครดิต กล่าว และว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้มีมาตรการช่วยเหลือพนักงานโดย จัดหาที่พักไว้ 3 เขตพื้นที่ เพื่อให้พนักงานและครอบครัวย้ายมาอยู่ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกต่อการเดินทางมาทำงาน เนื่องจากบริษัทไม่ได้ประกาศหยุด รวมทั้งมีเบี้ยสมทบให้สำหรับพนักงานบางรายที่ได้รับความเดือดร้อนมาก
