มูลนิธิผู้บริโภคหนุน ครม.สั่ง “หยุดเก็บค่าทางด่วนทุกเส้นทาง” ช่วยวิกฤติน้ำท่วม
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเรียกร้องการทางพิเศษฯ คืนประโยชน์ให้ประชาชน หยุดเก็บค่าทางด่วนทุกเส้นทางในช่วงวิกฤตน้ำท่วม ให้กระทรวงคมนาคมกำหนดเวลารอจ่ายค่าผ่านทางพิเศษไม่เกิน 3 นาที
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่ามูลนิธิฯเรียกร้องให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยุดเก็บเงินทางด่วนทุกเส้นทางสืบเนื่องจากภาวะอุทกภัยที่เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 1 เดือน กว่า 20 จังหวัด รวมทั้งปริมณฑลและหลายเขตในกรุงเทพมหานคร ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องประสบปัญหา ไม่สามารถใช้เส้นทางโดยสารปกติ หรือการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เส้นทางจำนวนมากถูกน้ำท่วมและไม่สามารถใช้สัญจรปกติได้ ทำให้การเดินทางของประชาชนจากหลายพื้นที่จำกัดและถูกบังคับให้ต้องใช้ทางด่วนพิเศษ เช่น การเดินทางจากถนนแจ้งวัฒนะ หรือถนนงามวงศ์วาน เข้าชั้นในของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้ขอความร่วมมือ จากทั้งรัฐและเอกชนในการยกเว้นการเก็บค่าทางด่วนในหลายเส้นทาง แต่ยังมีบางเส้นทางที่ยังมีการจัดเก็บอยู่ เช่น สายบางโคล่ แจ้งวัฒนะ
“ขอเรียกร้องให้การทางพิเศษยกเว้นการเก็บค่าทางด่วนทุกเส้นทาง และสนับสนุนรัฐบาลที่จะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ รวมทั้งขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การใช้ทางพิเศษของประชาชนดังเช่นที่มีการกำหนดในบางประเทศ”
เลขาธิการมูลนิธีเพื่อผู้บริโภค ยังกล่าวว่าในประเทศอาเจนตินากำหนดระยะเวลาในการรอจ่ายค่าผ่านทางด่วนต้องไม่เกิน 3 นาทีสำหรับเส้นทางพิเศษของรถประเภทเดียวกัน หรือ 5 นาทีสำหรับเส้นทางที่มีรถหลายประเภท รวมทั้งกำหนดจำนวนยานพาหนะในการรอจ่ายเงินแต่ละช่องทางสูงสดไม่เกิน 20 คันของรถที่รอชำระค่าผ่านทาง และเมื่อไหร่ที่เข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ทางพิเศษต้องเปิดทางให้กับรถทุกคัน ซึ่งไม่สามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้
“ที่ผ่านมารัฐบาลและผู้บริโภคสนับสนุนให้การทางได้รับประโยชน์เกินกว่าสัญญาสัมปทานที่รัฐมีให้กับเอกชน เนื่องจากการขึ้นราคาครั้งล่าสุดของการทางพิเศษจาก 50 บาทเป็น 55 บาท มีเงื่อนไขประกอบว่าจะขึ้นค่าผ่านทางได้ในกรณีที่มีรถยนต์ใช้บริการไม่เกิน 250,000 คัน แต่ตัวเลขผู้ใช้ทางพิเศษมีมากถึง 1,450,000 คัน รัฐบาลยังได้อนุมัติให้ขึ้นราคาและเป็นประโยชน์กับบริษัทเกินเลยผลประโยชน์ของประชาชน และผู้บริโภคเป็นผู้รับภาระค่าผ่านทางที่ไม่เป็นธรรมมาเป็นเวลานาน” นางสาวสารี กล่าว
นางสาวสารี ยังกล่าวว่า ผู้บริโภคหลายแสนคนยังสนับสนุนการจัดทำระบบผ่านทางแบบรวดเร็ว(Easy Pass) โดยใช้บัตรมัดจำค่าผ่านทางในราคาที่สูงมากกว่าราคาทั่วไปตั้งแต่ 800-1,000 บาท นอกจากนี้การทางพิเศษยังได้ให้สัมปทานป้ายโฆษณาสินค้าบนทางด่วนซึ่งในหลายประเทศห้ามมิให้มีการดำเนินการ เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายกับผู้ขับขี่รถยนต์ หรือการดำเนินการจัดทำจุดพักรถและให้มีการจำหน่ายสินค้าต่างๆ ซึ่งสามารถหาผลประโยชน์ได้
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและตัวแทนผู้บริโภคจะไปรับฟังคำตอบจากประธานกรรมการและผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศที่กระทรวงคมนาคมเวลา 14.00 น.
ที่มาภาพ : http://www.innnews.co.th/สธ-มอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดูแลโรคน้ำท่วม--316068_03.html
