'ก่อแก้ว' ติงรัฐบีบ 'ปู' ชดใช้ 'จำนำข้าว'
"ก่อแก้ว" ติงรัฐบาลไล่บีบ "ยิ่งลักษณ์" ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว เผยถ้ารัฐออกคำสั่งทางปกครอง บังคับ "ปู" จ่ายเงินจริง ถือว่าทำร้ายจิตใจชาวนาทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.58 นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่รัฐบาลส่งสัญญาณในการออกคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าว ทั้งๆ ที่ดำเนินโครงการตามที่หาเสียงไว้ และมีเป้าหมายในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรที่ยากจน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน รวมทั้งช่วยลดปัญหาทางสังคมโดยรวม อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปในตัวนั้น โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนโยบายที่ช่วยแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำได้ดีที่สุดโครงการหนึ่ง ทำให้ชาวนาหลายล้านคนลืมตาอ้าปาก มีเงินใช้หนี้ มีเงินส่งลูกเรียน มีเงินซื้อเครื่องมือเครื่องจักรกล มีเงินซื้อเครื่องอำนวยความสะดวก มีเงินซื้อรถมอเตอร์ไซค์ บางคนถึงขั้นมีเงินซื้อรถปิกอัพ และหลายๆ คนมีเงินทองเหลือเก็บเป็นครั้งแรกในชีวิต
นายก่อแก้ว กล่าวต่อว่า คนที่ไม่เห็นด้วยอาจจะมองว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์รับจำนำข้าวในราคาที่สูงเกินไป ข้าวหอมมะลิรับจำนำถึง 20,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ราคาขายในตลาดโลกต่ำกว่า 20,000 บาทต่อตัน รัฐบาลมีแต่ขาดทุน แต่อีกด้านคนที่สนับสนุนโครงการนี้กลับมองว่า ไทยเคยขายข้าวได้ถึง 23,000-24,000 บาทต่อตันในช่วงปี 2551 ในยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ซึ่งถ้าตลาดไม่เอื้ออำนวย ไม่สามารถขายในราคาที่กำไรได้ ถึงแม้จะขาดทุนบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อให้คนเหล่านี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างกันเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ทั้งนี้ ตนมองว่าทุกรัฐบาลมีหน้าที่ในการช่วยเหลือคนจน คนด้อยโอกาส ในการดึงให้คนเหล่านี้มีรายได้เพียงพอ และมีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราปล่อยให้คนจนจนลงไปเรื่อยๆ จนพวกเขาไม่มีทางออกของชีวิต คนบางคนก็จะหาทางออกให้กับชีวิตโดยการหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ปล้นชิงวิ่งราว ค้ายา เป็นต้น
นายก่อแก้ว กล่าวด้วยว่า ถ้ารัฐบาลออกคำสั่งทางปกครองให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้เงินจริง นอกจากจะทำร้ายจิตใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว ยังเป็นการทำร้ายจิตใจชาวนาทั่วทั้งประเทศอย่างรุนแรงอีกด้วย เพราะจะเป็นการส่งสัญญาณว่า ห้ามรัฐบาลในอนาคตดำเนินนโยบายในการช่วยเหลือชาวนาแบบนี้อีก โอกาสที่ชาวนาจะสามารถลืมตาอ้าปากได้จะหายไปอย่างสิ้นเชิง อนาคตของชาวนาจะขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางแทน ซึ่งหลายสิบปีที่ผ่านมาสังคมก็รับทราบดีว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ถ้าชาวนาประกอบอาชีพอย่างสิ้นหวัง มองว่าทำนาไปก็ไม่มีอนาคต ไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ สุดท้ายชาวนาก็จะทยอยขายที่ดินแล้วหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน ยุทธศาสตร์ของไทยที่จะเป็นครัวโลกซึ่งเป็นจุดแข็งที่สุดของประเทศไทยในการแข่งขันกับนานาชาติก็จะหายไปด้วยในที่สุด
ขอบคุณข่าวจาก

