นายกฯแจงงบปี55ทุ่ม1.2แสนล.เยียวยาน้ำท่วม
เปิดสภาฯถกงบปี 55 วงเงิน 2.3 ล้านล้านบาท ยิ่งลักษณ์แจงใช้1.2 แสนล้าน เยียวยา-ฟื้นฟูน้ำท่วม เท 4.5 หมื่นล้าน ผุด 12 เมกะโปรเจกต์
เมื่อเวลา 10.00น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 2.3 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อ่านคำแถลงประกอบงบประมาณรายจ่ายต่อที่ประชุมโดยมีสาระสำคัญว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี2554 ได้รับผลกระทบจากปัจจัยนอกประเทศ อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นสางผลให้ผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมในไทยไตรสามที่สองหดตัว ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและวิกฤติการณ์หนี้สาธารณะของสหภาพยุโรปได้สร้างความกังวลและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยคาดว่าทั้งปี 2554 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วง 3.5%-4%
"จากปัญหาภัยธรรมชาติ และความล่าของการนำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2555 มาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีปัจจัยลบจะมีผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยในปี 2554 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการจำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบให้สามารถป้องกัน บรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก โดยการสนับสนุนปฎิบัติการฝนหลวง เพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำและขยายเขตพื้นที่ชลประทาน 301,950 ไร่ ดำเนินงานในโครงการขนาดใหญ่ 12 โครงการ โครงการขนาดกลาง 63 โครงการ บริหารจัดการระบบชลประทาน 24 ล้านไร่ อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิภาพการบริหารจัดการโดยการผันน้ำและกระจายน้ำในพื้นที่วิกฤตรวมทั้งพัฒนาแหล่งน้ำชุมชนและแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานตลอดจนป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำในพื้นที่เขตชลประทาน
"การเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ได้จัดสรรงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติและสาธารณภัยอีกจำนวน 1 หมื่นล้านบาท จะมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 1.3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ การจัดการทรัพยากรน้ำได้จัดสรรงบประมาณ 7.9 พันล้านบาท เพื่อพัฒนากลไกการบริหารจัดการฟื้นฟูทรัพยากน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการเพื่อแก้ไไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง 287 แห่ง และจัดหาแหล่งน้ำบาดาลสะอาดสำหรับโรงเรียนและหมู่บ้านภัยแล้ง 1,047 แห่ง ตลอดจนการเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัย 832 หมู่บ้าน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2555 ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากความเสียหายอย่างรุนแรงเนื่องจากอุทกภัยในข่วงปลายปี 2554 อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหาดังกล่าวบรรเทาเบาบางลงแล้วการปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและการผลิต การดำเนินมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างเร่งด่วนทั้งภาครัฐและเอกชนจะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยฟื้นตัวการลงทุนการจ้างแรงงาน รวมทั้งช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้ขยายตัวต่อเนื่อง
"เศรษฐกิจไทยในปี 2555 ยังมีแรงสนับสนุนจากปัจจัยที่สำคัญได้แก่ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจใจภูมิภาคเอเซียซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ความชัดเจนของมาตรการแก้ไขวิกฤติการณ์หนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพมากขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2555 ยังสามารถขยายตัวได้ประมาณ 4.5%-5.5% และอัตราเงินเฟ้อประมาณ 3%-4%" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณพ.ศ.2555 รัฐบาลประมาณการว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น2.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% จากปีก่อนและเมื่อหักการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ.2542 จำนวน 8.6 หมื่นล้านบาท คงเหลือเป็นรายได้สุทธิที่สามารถนำมาจัดสรรเป็นรายจ่ายของรัฐบาลจำนวน 1.9 ล้านล้านบาทหรือ 16.8%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
"ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 21 ต.ค. 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 321,401.5ล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและบริหารรายรับและรายจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในปีงบประมาณเดียวกันได้จัดสรรงบประมาณเป็นรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังจำนวนทั้งสิ้น 5.3 หมื่นล้านบาทเพื่อชดใช้รายจ่ายที่ได้ใช้เงินคงคลังจ่ายไปก่อน สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ณ วันที่ 31 ส.ค.2554 มีจำนวน 40.22% ซึ่งยังคงอยู่ภายในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
