'ทินพันธุ์'ลั่นไม่ล้วงลูกตั้งประธาน กมธ.ปฏิรูป
สปท.รุมค้าน "ทินพันธุ์"ตั้งประธาน กมธ. แนะให้สมาชิกเลือกกันเอง เจ้าตัวลั่นไม่ล้วงลูก เซ็นตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เฟ้นคนเหมาะสม ตั้งเป้ากวาดขยะที่หมักหมมให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง "วลัยลักษณ์" เผยยอดสมัคร กมธ.เศรษฐกิจเยอสุด สื่อฯ น้อยสุด
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกระบวนการคัดสรรการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของสปท.ว่า ตนได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมา 1 ชุด จำนวน 6 คน เพื่อร่วมกันพิจารณาความเหมาะสม ว่าใครจะดำรงตำแหน่งใดในคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 11 คณะ และคณะกรรมาธิการวิสามัญอีก 1 คณะ ซึ่งการเลือกประธาน กมธ.สามัญทั้ง 11 คณะ ตนจะไม่เข้าไปก้าวก่าย ให้เป็นหน้าที่และดุลยพินิจของคณะกรรมการกลั่นกรอง ไม่ใช่ประธาน สปท.จะวางตัว หรือเป็นผู้เลือกเอง แม้จะได้รับมอบอำนาจมา แต่ตนจะไม่ใช้อำนาจไปก้าวก่ายโดยพลการ ทั้งนี้ เชื่อว่า การทำงานจะรวดเร็ว ไม่ให้ล่าช้า
ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันการทำงาน สปท.ต่อจากนี้ คือ 1.จะต้องปฏิรูปตัวเองก่อน เพื่อการทำงานที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และ 2.สปท.ไม่ใช่สภาการเมือง แต่เป็นสภาวิชาการ การทำงานจะต่างจากรูปแบบเดิม ๆ และจะหลีกเลี่ยงการเป็นสภาโต้วาที ต้องไม่ใช่สภาที่พูดมากแต่ไร้ผลงาน แต่จะเป็นสภาที่ปรึกษานายกฯ มีเป้าหมายคือสานงานการออกกฎหมาย ล้าง กวาดขยะที่หมักหมมมายาวนานให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามขอขอบคุณสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ชุดก่อนที่ร่วมกันคิดวิจัยผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากมายได้สำเร็จ มีประสิทธิภาพ ดังนั้นตนจะเดินหน้าสานงานนี้ต่อให้เอง
ด้านนางวลัยลักษณ์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท. คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูป จำนวน 11 คณะ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรสมาชิก สปท. ให้สอดคล้องกับคณะกมธ.ทั้ง 11 คณะ คณะละ 11-23 คน และสมาชิก สปท. 1 คน เป็น กมธ. ได้ 1 คณะเท่านั้น ว่า หลังจากสมาชิก สปท. ยื่นเอกสารแสดงความจำนงเป็น กมธ. ปฏิรูป คณะต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน ทั้งนี้ กมธ. ที่มีสมาชิก สปท. แสดงความจำนงมากที่สุดคือ กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจ จำนวน 34 คน และน้อยที่สุด คือ กมธ. ปฏิรูปสื่อมวลชน จำนวน 3 คน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เกลี่ยคณะกมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจ เหลือ 23 คน และ กมธ.ปฏิรูปสื่อสารมวลชน เพิ่มเป็น 11 คน ตามข้อบังคับการประชุม สปท. แล้ว โดยคำนึงถึงคุณสมบัติของสมาชิก สปท. และติดต่อเป็นการส่วนตัวเพื่อขอให้ย้ายคณะกมธ. ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ จะส่งรายชื่อคณะกมธ.ทั้ง 11 คณะ ไปยังประธาน สปท.ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะแจ้งต่อที่ประชุม สปท. ได้ในวันที่ 9 พ.ย.
ขณะที่นายสมพงษ์ สระกวี สมาชิก สปท. ในฐานะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุม สปท. กล่าวว่า คาดว่า ภายในวันที่ 9-10 พ.ย.นี้ จะประกาศรายชื่อคณะกรรมาธิการสามัญปฏิรูปทั้ง 11 คณะได้ ส่วนกรณีแต่งตั้งประธานกรรมาธิการปฏิรูปแต่ละคณะ ที่ให้ ร.อ.ทินพันธุ์ เป็นผู้ลงนามแต่งตั้งตามข้อบังคับการประชุม แทนการให้สมาชิกเลือกกันเอง ยอมรับว่า มีสมาชิก สปท.บางส่วนที่เป็นอดีตนักการเมืองไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะอาจได้ตัวประธานกรรมาธิการฯที่ไม่ตรงใจของสมาชิก อยากได้ประธานกรรมาธิการฯ ที่มาจากการเลือกของสมาชิกมากกว่า อย่างไรก็ตามทราบว่า ขณะนี้มีสมาชิก สปท.บางส่วนพยายามเสนอตัวต่อประธาน สปท.ว่า มีความถนัด และอยากทำงานปฏิรูปด้านนั้น ด้านนี้ ดังนั้นประธาน สปท.ต้องโชว์ฝีมือคัดเลือกเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในการแต่งตั้ง.
ขอบคุณข่าวจาก

