นายกฯ จี้รมต.เข้มจัดซื้อจัดจ้าง
บิ๊กตู่บี้รมต.เจ้ากระทรวงตรวจเข้มจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ชี้กฎหมายใหม่เพิ่มโทษอาญาหวังให้ทุกอย่างโปร่งใส
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. ได้สั่งผ่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมครม.กำชับให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงลงไปกำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบวิธีพิเศษ เพื่อดูแลการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และถูกต้องตามกฎระเบียบของส่วนราชการ นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องการทราบความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ โดยเป็นการยกระดับของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 เป็นพระราชบัญญัติฉบับใหม่ที่ครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอิสระต่าง ๆ ด้วย ต่างจากระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกฯที่ครอบคลุมเฉพาะส่วนราชการเท่านั้น ขณะเดียวกันร่างกฎหมายนี้ยังกำหนดโทษทางอาญา ที่หมายถึงการจำคุก เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเฉพาะโทษทางแพ่งอย่างเดียว เพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐและรัฐวิสาหกิจนั้นมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามขณะนี้การจัดทำร่างกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฯอยู่ระหว่างการส่งร่างกฎหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบรายละเอียดว่ามีปัญหาติดขัดอย่างไรหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างในต่างประเทศ ที่ต้องดูแลและตรวจสอบให้ละเอียด ก่อนนำเสนอให้ครม.พิจารณาต่อไป "นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กำลังตรวจสอบในรายละเอียดทั้งหมด หลังจากยกร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างรอบคอบ ไม่มีปัญหา ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยเชื่อว่ากฎหมายฉบับใหม่จะทำให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากยิ่งขึ้น" รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จะมีทั้งหมด 123 มาตรา มีทั้งหมด 15 หมวด และหมวดเฉพาะกาล เพื่อให้การปฎิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดข้างและการบริหารพัสดุโดยใช้เงินงบประมาณ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าต่อภารกิจของรัฐ และต้องก่อให้เกิดมีประประโยชน์สูงสุดแก่สาธารณะ โดยให้รมว.คลังเป็นผู้มีอำนาจในการรักษากฎหมาย โดยมีคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งมีรมว.คลังหรือรมช.คลัง เป็นผู้กำกับดูแล เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของบทกำหนดโทษ ได้กำหนดให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่รัฐผิดชอบจะสั่งการหรือไม่สั่งการก็ตามจะต้องรับโทษเป็นสองเท่าของความผิดที่กำหนดไว้ตามกฎหมายด้วย
ขอบคุณข่าวจาก