“ปู”ชี้อาจรื้อบิ๊กแบ็กออกหมด
นายกฯระบุอาจรื้อบิ๊กแบ็กออกหมดเพื่อเร่งระบายน้ำ สั่งกทม.ยึดมติที่ประชุมร่วมกก.บริหารจัดการน้ำ
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 24 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหามวลชนประท้วงให้รื้อแนวกระสอบทรายยักษ์ (บิ๊กแบ็ก) ในหลายพื้นที่มากขึ้น ว่าได้สั่งการให้คณะกรรมการระบายน้ำ ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯในจังหวัดโดยรอบกทม.ทั้งหมด ได้ประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปวิธีการปรับแนวการระบายน้ำร่วมกัน เนื่องจากกระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางไปแล้ว และการระบายน้ำในกทม.ทำได้มากขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นไปได้ที่จะให้รื้อแนวบิ๊กแบ็กออกทั้งหมด โดยเราต้องไปดูจุดที่มีการกั้นบิ๊กแบ็กเอาไว้ หากมีทางให้ระบายได้ก็ต้องทำ ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อลดความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามตนได้ให้แนวทางไปว่าก่อนที่จะระบายน้ำต้องคำนึงถึงทางแก้ไข และผลกระทบที่มีต่อประชาชนด้วย โดยข้อสรุปที่เกิดขึ้นจะมาจากการประชุมร่วมกันทั้งในส่วนของสำนักการระบายน้ำ กทม. กรมชลประทาน คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าฯในพื้นที่โดยรอบทั้งหมด
เมื่อถามว่าวันนี้ยังมีปัญหาการประสานงานระหว่าง กทม.กับ ศปภ.หรือไม่ เพราะล่าสุดผู้ว่าฯกทม.บอกว่าได้รับคำสั่งให้รับผิดชอบเฉพาะพื้นที่กทม. หากจะให้ดูแลจังหวัดอื่นด้วยต้องส่งคำสั่งไปให้ใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม.ก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของกทม. แต่เรื่องการระบายน้ำต้องทำงานร่วมกัน ตนไม่ได้บอกให้ผู้ว่าฯกทม.ต้องไปรับผิดชอบในจังหวัดอื่น แต่หลักการที่เราสั่งการไป คือต้องหาทางระบายน้ำในกทม.ให้ได้เต็มที่ และต้องคำนึงถึงผลกระทบด้วย แต่วิธีการปฏิบัติงานจะทำอย่างไรนั้น จะต้องยึดมติจากที่ประชุมร่วมของทุกหน่วยงานเป็นหลัก เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรหากมติที่ออกมาไม่เป็นที่พอใจของประชาชนอีก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ ที่เข้าร่วมประชุมถือเป็นตัวแทนของประชาชนทุกจังหวัดอยู่แล้ว และวันนี้เราไม่ได้หารือกับผู้ว่าฯ กทม.คนเดียว แต่เราเชิญผู้ว่าฯที่อยู่พื้นที่โดยรอบกทม.มาทั้งหมด ซึ่งจะต้องคุยกันว่าหากให้ระบายน้ำจากที่หนึ่ง แล้วอีกที่หนึ่งจะต้องมีแผนรองรับอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแนวทางอื่น นอกเหนือจากการเจรจาหรือไม่ หากประชาชนยังไม่พอใจอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้มีข้อสรุปออกมาก่อน เราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ และมีมาตรการในแต่ละขั้นตอน อย่างกรณีของชาวบ้านย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ใช้ความรุนแรงปิดโทลเวย์ประท้วงและมีการทำลายรถของผู้ที่ใช้เส้นทางเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ก็มีการแจ้งความ และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้การเจรจาต้องทำด้วยแนวทางสันติตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ถ้ามีการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการ.

