ปธ.ศาลฎีกาออกข้อกำหนดส่ง‘หมายเรียก-คําฟ้องคดี’ทางไปรษณีย์แก่จําเลยที่อยู่ ตปท.ได้

ปธ.ศาลฎีกาออกข้อกำหนด ส่งหมายเรียก-คําฟ้องคดีแก่จําเลยที่อยู่ต่างประเทศ ทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ  กิจการรับส่งพัสดุภัณฑ์   สนง.ศาลยุติธรรม ก.ต่างประเทศได้

14 ม.ค.59   ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกําหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการส่งหมายเรียกและคําฟ้องตั้งต้นคดี แก่จําเลย ณ ภูมิลําเนาหรือสํานักทําการงานของจําเลยนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๘  สาระสำคัญ

ข้อ ๓ ในกรณีที่ไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีกําหนดวิธีการส่งหมายเรียก และคําฟ้องตั้งต้นคดีไว้โดยเฉพาะ ให้ศาลมีคําสั่งว่าจะให้ส่งโดยทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ หรือผู้ประกอบกิจการรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ หรือโดยผ่านสํานักงานศาลยุติธรรมและกระทรวง การต่างประเทศ

ข้อ ๔ ให้โจทก์วางเงินสําหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดส่งหมายเรียกและคําฟ้องตั้งต้นคดี ตามระเบียบปฏิบัติของศาล หากมีเงินดังกล่าวเหลืออยู่ให้คืนแก่ผู้มีสิทธิได้รับโดยเร็ว หากเงินที่โจทก์วางไว้ตามวรรคหนึ่งไม่เพียงพอ ให้ศาลสั่งโจทก์วางเงินเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควร      

ข้อ ๕ ในกรณีที่ศาลสั่งให้ส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ติดตามผลการส่งทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางอื่นแล้วแต่กรณี แล้วพิมพ์ผลการส่งจากระบบการตรวจสอบดังกล่าว เพื่อดําเนินการต่อไปตามข้อ ๑๐

ข้อ ๖ ในกรณีที่ศาลสั่งให้ส่งทางผู้ประกอบกิจการรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ให้ส่งทาง ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวที่น่าเชื่อถือและมีระบบการตรวจสอบผลการส่ง และให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ติดตามผลการส่งทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางอื่นแล้วแต่กรณี แล้วพิมพ์ผลการส่งจากระบบการตรวจสอบ ดังกล่าวเพื่อดําเนินการต่อไปตามข้อ ๑๐

ข้อ ๗ ในกรณีที่ศาลสั่งให้ส่งผ่านทางสํานักงานศาลยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ ให้ศาลส่งหนังสือร้องขอที่จะให้ศาลต่างประเทศส่งหมายเรียก คําฟ้องตั้งต้นคดี และเอกสารอื่นใด ตามมาตรา ๘๓ จัตวา ให้ โดยรับรองว่าโจทก์จะเป็นผู้ชําระค่าใช้จ่ายในการดําเนินการและศาลที่ร้องขอยินดี จะให้ความร่วมมือแก่ศาลของประเทศที่รับคําร้องขอในลักษณะเดียวกันไปยังสํานักงานศาลยุติธรรม   พร้อมหมายเรียก คําฟ้องตั้งต้นคดี และเอกสารอื่นใดตามมาตรา ๘๓ จัตวา ที่จะขอให้ส่ง พร้อมคําแปล เป็นภาษาราชการของประเทศนั้นหรือเป็นภาษาอังกฤษ ให้สํานักงานศาลยุติธรรมส่งเรื่องที่ได้รับตามวรรคหนึ่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศโดยเร็ว เพื่อร้องขอให้รัฐบาลของประเทศนั้นติดต่อกับศาลหรือเจ้าหน้าที่อื่นที่มีอํานาจทําการส่งหมายเรียก คําฟ้องตั้งต้นคดี และเอกสารอื่นใดตามมาตรา ๘๓ จัตวา พร้อมคําแปลตามที่ได้รับการร้องขอ ในกรณี ที่ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ามีค่าใช้จ่ายในการส่งเอกสารดังกล่าว ให้สํานักงานศาลยุติธรรม แจ้งศาลที่ร้องขอเพื่อทําการเบิกจ่ายจากเงินค่าใช้จ่ายที่โจทก์วางไว้ตามข้อ ๔

เอกสารประกอบ : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/005/3.PDF