สั่งศปภ.-กทม.ร่วมเปิด-ปิดประตูคลองมหาสวัสดิ์
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ศปภ.-กทม.ไปร่วมกันพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนกู้ถนน 340-ทางหลวงหมายเลข 9 ไม่มีคำสั่งบรรเทาทุกข์ ชี้เป็นเส้นทางสัญจร
วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลปกครองกลางแผนกคดีสิ่งแวดล้อม องค์คณะที่ 4 ที่มีนายกมล สกลเดชา ตุลาการหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยนายวิรัช ร่วมพงศ์พัฒนะ ตุลาการศาลปกครองกลาง และนางอังคณา เสาธงทอง ตุลาการศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวน ได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ในคดีที่ นางทศสิริ พูลนวล ชาวบ้านอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในฐานะผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) และกทม. เพื่อขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยขอให้ระงับคำสั่งของศปภ.ที่สั่งให้กู้ถนนสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถ.กาญจนาภิเษก) ช่วงอ.ไทรน้อย และอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และขอให้กทม.ระงับการปิดประตูระบายน้ำในคลองมหาสวัสดิ์
ทั้งนี้หลังจากที่ศาลฯได้มีการไต่สวนไปแล้ว จึงได้ออกคำสั่งให้ศปภ.และกทม.ไปร่วมกันพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกับความสามารถในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่รับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ทั้งนี้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น และยกคำขอที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นางทศสิริได้ขอระงับการกู้ทางหลวงหมายเลข 340 (บางบัวทอง – สุพรรณบุรี) และทางหลวงหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษก) เพราะหากศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราว ระงับการกู้ถนนสายที่ 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) และทางหลวงหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) นั้นจะทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวได้ และจะก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคแก่การบริหารงานของศปภ. จึงเห็นว่ากรณีจึงยังไม่เป็นการสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว.

