โพลชี้ปชช.หนุนคสช.ปราบมาเฟีย เชื่อมีจนท.รัฐเอี่ยว
"สวนดุสิตโพล"ชี้ประชาชนหนุนนโยบายปราบมาเฟีย เชื่อมีจนท.รัฐเอี่ยว เหตุมีผลประโยชน์ร่วมกัน เชื่อคาดคสช.น่าจะทำสำเร็จ
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,249 คน ระหว่างวันที่ 7-12 มี.ค.2559 เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล(มาเฟีย) ของคสช. พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 74.62 คิดว่านโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนโยบายที่ดี เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ร้อยละ 73.9 เห็นว่าหากทำได้จริง บ้านเมืองคงสงบเรียบร้อย ประชาชนปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ร้อยละ 71.74 เป็นเรื่องยากที่จะปราบปรามได้ทั้งหมด อาจแก้ปัญหาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ร้อยละ 65.49 เจ้าหน้าที่ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ยุติธรรม ตรงไปตรงมา ร้อยละ 56.35 เห็นว่าควรให้รางวัลสำหรับผู้ที่ให้เบาะแสหรือผู้ที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม
เมื่อถามว่าผู้มีอิทธิพล” ที่ประชาชนคิดว่าควรเร่งปราบปรามมากที่สุด ประชาชนเห็นว่าอันดับ 1 ผู้ค้ายาเสพติด ของผิดกฎหมาย อาวุธเถื่อน ร้อยละ 88.87 อันดับ 2 นักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่น ร้อยละ 78.46 อันดับ 3 เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ กลุ่มคนมีสี ตำรวจ ทหาร ร้อยละ 73.26 อันดับ 4 นายทุน เงินกู้นอกระบบ เปิดบ่อน หวยใต้ดิน ร้อยละ 67.41 อันดับ 5 พวกค้าแรงงาน ค้ามนุษย์ ร้อยละ 61.73 เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พบว่าประชาชนร้อยละ 85.43 คิดว่ามี เพราะเป็นเรื่องปกติที่มีมานาน รับรู้จากข่าวที่นำเสนอ เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ในการช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ของรัฐเองก็ออกมายอมรับว่ามีจริง ร้อยละ13.29 ไม่แน่ใจ เพราะ อาจเป็นข่าวโคมลอย มีการแอบอ้างหรือใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้บุคคลนั้นๆเสื่อมเสียชื่อเสียง ร้อยละ 1.28 คิดว่าไม่มี เพราะเชื่อมั่นในเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการไทย ก่อนเข้ารับตำแหน่งทุกคนต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ
สำหรับปัญหาหรืออุปสรรคที่ขัดขวางการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้น ประชาชนเห็นว่า อันดับ 1 ไม่กล้าร้องเรียน กลัวเดือดร้อน ถูกคุกคาม ถูกทำร้าย ร้อยละ 81.59 อันดับ 2 รับสินบน รับเงินใต้โต๊ะ เห็นแก่ผลประโยชน์ ร้อยละ 76.22 อันดับ 3 การใช้ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ที่สูงกว่า ใช้ระบบเส้นสาย ช่วยเหลือพวกพ้อง เครือญาติ ร้อยละ 70.94 อันดับ 4 มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ ไม่เอาจริงเอาจัง ร้อยละ 68.45 อันดับ 5 กฎหมายมีช่องโหว่ บทลงโทษไม่เหมาะสม ร้อยละ 66.53 เมื่อถามว่าจากนโยบายของ คสช.ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อขจัดปัญหาผู้มีอิทธิพล คิดว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด พบว่าประชาชนร้อยละ 42.43 คิดว่าน่าจะสำเร็จได้ เพราะถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน คสช.น่าจะควบคุมและแก้ปัญหาได้ ขณะที่ร้อยละ 36.99 เห็นว่าไม่น่าจะสำเร็จ เพราะ เมื่อคนเก่าไปก็มีคนใหม่มาแทน ผู้มีอิทธิพลมีอยู่มาก การปราบปรามอาจไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ ร้อยละ 11.93 คิดว่าสำเร็จได้แน่นอน เพราะคสช.มีอำนาจเด็ดขาด เอาจริงเอาจัง สามารถใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ได้ทุกสถานการณ์ ร้อยละ 8.65 คิดว่าไม่สำเร็จ เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน ยังไม่เคยมีใครแก้ปัญหาได้สำเร็จ หรือขุดรากถอนโคนให้หมดสิ้นไปได้
เมื่อถามว่าวิธีใดที่จะสามารถปราบปรามผู้มีอิทธิพลได้ผลมากที่สุด พบว่าประชาชนร้อยละ 87.35 คิดว่าทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ช่วยกันสอดส่องดูแล ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ร้อยละ 83.35 เห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เอาจริงเอาจัง มีบทลงโทษรุนแรงเด็ดขาด ร้อยละ 79.66 คิดว่าสามารถจับกุมหรือดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลรายใหญ่หรือตัวจริงให้ได้ ร้อยละ72.78 คิดว่าการปลูกฝังจิตสำนึก เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 58.21 มีระบบการติดตาม การตรวจสอบที่ดี มีประสิทธิภาพ.
ขอขอบคุณข่าวจาก

