โชว์หนังสือ! คสช.ชงแก้ รธน.มี ส.ว.สรรหาคุมเปลี่ยนผ่าน-อ้างไม่สืบทอดอำนาจ?
“…คสช. ขอเรียนว่า อย่าได้หวาดระแวงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ คสช. ยินดีจะพ้นจากตำแหน่งและยุติอำนาจหน้าที่ทั้งปวงตามกำหนดเวลาใน Roadmap และในร่างรัฐธรรมนูญ และจะไม่เข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงการจัดการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่…”

หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำหนังสือข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการ คสช. เป็นผู้ลงนาม และนายมีชัย ลงนามรับทราบแล้ว มีรายละเอียดอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้
----
หนึ่ง เรื่อง ส.ว.สรรหา
ในการประชุมหารือกันเป็นการภายในระหว่างหัวหน้า คสช. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) นายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ประชุมแสดงความห่วงใยว่า โดยที่ห้วงเวลาหลังการเลือกตั้งทั่วไป เป็นการเปลี่ยนผ่านจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งทราบไปแล้วว่า ช่วงนั้นมีการตรวจสอบและดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาต่อผู้กระทำผิดในคดีทุจริต คดียาเสพติด และอื่น ๆ รวมถึงปฏิรูปไปแล้วบางเรื่อง แก้ไขความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้สังคม
ดังนั้นสิ่งที่ คสช. กระทำย่อมส่งผลกระทบต่อบุคคลบางกลุ่มเป็นธรรมดา และกำลังฟื้นฟูดูแลให้เข้ารูปเข้ารอย อาจถูกล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงจนขาดความต่อเนื่อง โดยอาศัยวิถีและกลไกประชาธิปไตยว่ามาจากการเลือกตั้งเป็นข้ออ้าง จึงใช้เสียงข้างมากในรัฐสภามุ่งเอาชนะคะคานจนเกิดความเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้งรุนแรง และควาไม่ปกติสุขดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และหวนกลับคืนมาใหม่จนเข้าวงจรเดิม ดังที่เรียกกันทางสื่อต่าง ๆ ว่า เป็นกับดักทางเศรษฐกิจที่ฉุดรั้งให้เศรษฐกิจของประเทศไม่อาจเติบโตได้
รวมถึงกับดักทางการเมืองที่สร้างความหวาดระแวงในหมู่ประชาชน รัฐบาลเองก็จะขาดเสถียรภาพ การปฏิรูปและการออกกฎหมายอาจดำเนินการต่อไม่ได้ อันจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยและความมั่นคงแห่งชาติล้มครืนลง กรณีนี้ย่อมไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ คสช.
คสช. ได้ติดตามรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์แล้ว สิ่งที่วิตกกังวลมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้สูง โดยพิจารณาจากความเคลื่อนไหวและความพยายามของบุคคลบางหมู่เหล่าที่วางแผนเคลื่อนออกมาต้าน ปลุกระดมและแทรกซึมอยู่ทั่วไป เพื่อทำลายความชอบธรรม และขัดขวางการดำเนินการต่าง ๆ ในการคืนความสุขของประชาชนในขณะนี้ จึงขอเสนอแนวทางการปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา
1.ให้ ส.ว. มีจำนวน 250 คน ซึ่งมีกึ่งหนึ่งของ ส.ส.
2.มาจากการคัดสรร หรือแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ วิธีการดำเนินการโดยคณะกรรมการอิสระ มีจำนวน 8-10 คน
3.มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี เนื่องจากให้สอดคล้องกับช่วงเวลาตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
4.คุณสมบัติ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกำหนด แต่เพื่อประโยชน์ในการพิทักษ์รักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ในกรณีที่ต้องมีคุณสมบัติว่า “ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือมีเงินเดือนประจำ” ควรเปิดให้สามารถแต่งตั้งข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญบางตำแหน่ง ซึ่งมิใช่ใน คสช. ในปัจจุบัน โดยให้มีจำนวนไม่เกิน 6 คน หรือไม่เกินร้อยละตามสัดส่วนเพียงเล็กน้อย เข้ามาเป็น ส.ว. โดยตำแหน่ง และไม่มีอำนาจหน้าที่พิเศษกว่าสมาชิกคนอื่น ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
5.อำนาจหน้าที่ ไม่มีอำนาจเลือกหรือกำหนดตัวนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี แต่มีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ดูแลการขับเคลื่อนการปฏิรูปตามแผนการปฏิรูป แนวนโยบายแห่งรัฐ ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ มีสว่นในกระบวนการนิติบัญญัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนวิธีดำเนินการตามแผนและนโยบายเหล่านั้น ย่อมเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีแต่ละคณะจะเลือกใช้ให้สอดคล้องกับนโยบายของตนตามที่หาเสียงไว้
และเพื่อ ส.ว. วาระแรกนี้ ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ มิให้ฝ่ายการเมืองอาศัยเสียงข้างมากใน ส.ส. บิดเบือนเจตนารมณ์หรือฝ่าฝืนความต้องการของประชาชน และยังสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล และปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องชอบธรรมเป็นที่พอใจแก่ประชาชน จึงควรให้ ส.ว. มีบทบาทในการควบคุมบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออื่น ๆ ตามกติการะบบรัฐสภา และกระบวนการยุติธรรมตามสมควรในระหว่างช่วงการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวด้วย
สอง การเลือกตั้ง ส.ส.
นอกจากนี้ วิธีการเลือกตั้ง ส.ส. นั้บให้ทบทวนระบบเลือกตั้ง ส.ส. น่าจะใช้บัตร 2 ใบ และให้เขตเลือกตั้งใหญ่ขึ้น โดยมี ส.ส. จำนวนไม่เกิน 3 คน แต่ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแต่ละคนใช้สิทธิเลือกได้เพียง 1 คน ผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดลดหลั่นลงไปจนได้ครบจำนวนที่ต้องการ
สาม การเลือกนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีการแจ้งรายชื่อนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าไม่เกิน 3 รายชื่อนั้น ควรคำนึงว่าเรื่องนี้เป็นมาตรการมาใช้ครั้งแรกหลังการเลือกตั้งที่ว่างเว้นมา และอาจเป็นครั้งแรกในโลกด้วย การพยายามทำตามกติกาสากลเป็นเรื่องจำเป็น แต่ทำทันทีอาจยังไม่เหมาะสมเพราะอ่อนไหว สุ่มเสี่ยงกับระยะเปลี่ยนผ่าน ดังนั้นการนำกติกาใหม่ ๆ มา อาจเป็นอีกกับดักหนึ่งที่ปิดทางออกในยามวิกฤติจนทำให้การเมืองเดินหน้าต่อไม่ได้ จึงไม่ควรใช้ระบบแจ้งชื่อผู้มาเสนอให้ ส.ส. ให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี
คสช. ขอเรียนว่า อย่าได้หวาดระแวงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ คสช. ยินดีจะพ้นจากตำแหน่งและยุติอำนาจหน้าที่ทั้งปวงตามกำหนดเวลาใน Roadmap และในร่างรัฐธรรมนูญ และจะไม่เข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงการจัดการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ (ดูเอกสารประกอบ)






อ่านประกอบ : คสช.ชงทางการ! ส.ว.สรรหา 5 ปีคุมเปลี่ยนผ่าน-ผบ.เหล่าทัพเป็นโดยตำแหน่ง
