มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแถลงกรณีพลทหารเสียชีวิต จ.ยะลา ขาดหลักประกันทาง กม.

กรณีพลทหารเสียชีวิตรายล่าสุดหลังถูกซ่อมที่ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
ขาดหลักประกันทางกฎหมายและทางปฏิบัติที่จะยุติการซ่อมทหารจนตาย
กรณีที่มีรายงานข่าวอย่างกว้างขวางเรื่องพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี และ
23 พลทหารสังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากที่พลทหารทั้งสองถูกกล่าวหาว่าได้กระทาผิดวินัยทหารจึงถูกปรับปรุงวินัย (ซ่อม) ระหว่างวันที่ 1-2 เมษายน 2559 พลทหารทรงธรรมได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ต่อมาพลทหารทรงธรรมฯได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559ส่วนพลทหารฉัตรพิศุทธ์ ชุมพันธ์ ได้รับบาดเจ็บและยังคงรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอตั้งข้อสังเกตดังนี้
1. ภายใต้ข้อกาหนด พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทางทหาร พ.ศ. 2476 กาหนดให้ทหารที่กระทาผิดวินัยทหารนั้น อาจถูกลงโทษตามความร้ายแรงของความผิดที่กระทา 5 ประการคือ
(1) ภาคทัณฑ์ คือ ผู้กระทำผิดมีความผิดอันควรต้องรับทัณฑ์สถานหนึ่ง สถานใดดังกล่าวมาแล้ว แต่มีเหตุผลอันควรปราณี จึงเป็นแต่แสดงความผิดของผู้นั้นให้ปรากฏหรือให้ทำ ทัณฑ์บนไว้
(2) ทัณฑ์กรรมนั้น ให้กระทำการสุขา การโยธา ฯลฯ เพิ่มจากหน้าที่ประจำซึ่งตนจะต้องปฏบัติอยู่แล้ว หรือปรับให้อยู่เวรยามนอกจากหน้าที่ประจำ
(3) กัก คือ กักตัวไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึงตามแต่กำหนดให้
(4) ขังคือขังในที่ควบคุมแต่เฉพาะคนเดียวหรือรวมกันหลายคนแล้วแต่จะได้มีคำสั่ง
(5)จำขัง คือขังโดยส่งไปฝากให้อยู่ในความควบคุมของเรือนจำทหารนอกจากทัณฑ์ที่กล่าวว้นี้ ห้ามมิให้คิดขึ้นใหม่หรือใช้วิธีลงทัณฑ์อย่างอื่นเป็นอันขาดอาการบาดเจ็บสาหัสของพลทหารทั้งสองคนจรกระทั่งมีคนหนึ่งเสียชีวิตนั้นแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่ผู้บังคับบัญชาใช้ในการลงโทษทางวินัยพลทหารทั้งสองนั้นเป็นวิธีการที่ผิดไปจากกฏหมายกำหนดอย่างชัดเจน
3. การตายในระหว่างการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เป็นกรณีที่ตรวจสอบยาก โดยเฉพาะการตายโดยผิดธรรมชาติ หรือถูกทาร้ายหรือซ้อมทรมานด้วยวิธีการต่างๆจนถึงแก่ความตายนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะแพทย์นิติเวชที่ต้องทาการผ่าพิสูจน์ศพ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง
4. การสืบสวนสอบสวนการตายในระหว่างควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ต้องการเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เป็นอิสระ เป็นมืออาชีพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และมีอานาจ เพราะเป็นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลอาจเกี่ยวข้องกับการซ้อมทรมาน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตารวจที่เป็นพนักงานสอบสวนสานวนการตายในกรณีเช่นนี้ จะต้องมีความพยายามมากขึ้นในการที่จะเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและให้ความจริงปรากฏมากที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ตารวจที่ต้องเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุที่เป็นสถานที่ของทางราชการฯ หรือของหน่วยงานอื่น อาจไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของสถานที่ หรือยังไม่มีความเป็นกลาง ปราศจากอคติ หรือเป็นมืออาชีพมากพอ ส่งผลให้ไม่สามารถนาข้อเท็จจริงเข้าสู่สานวนได้ตรงและสอดคล้องกับความจริง ทาให้คดีไม่กระจ่างคงไว้ซึ่งความสงสัยของสังคมและญาติส่งผลให้ประชาชนขาดความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมไทย
5. ค่ายทหาร สถานที่ควบคุมตัวหรือเรือนจา เป็นสถานที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลและอยู่ภายใต้ความรับผิดของผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีอานาจหน้าที่ในการกาหนดกฎระเบียบ สอดส่องดูแลมิให้มีการซ้อมทรมานเกิดขึ้น เช่น การลงโทษทางวินัยจนตายในการควบคุมหรือซ่อมจนตายนั้นเคยเกิดมาแล้วหลายกรณี เช่นกรณีการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร เผือกสมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ค่ายปิเหล็ง จ.นราธิวาส และในกรณีสิบโทกิตติกร สุธีรพันธ์ เสียชีวิตในเรือนจา มทบ.25 จ.สุรินทร์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้น แต่การสืบสวนสอบสวนกรณีต่างๆเหล่านี้และกรณีอื่นๆที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน ก็ยังไม่ปรากฏว่าผู้บังคับบัญชาเหล่านั้นต้องรับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญาแต่อย่างไร สร้างความสงสัยและกังวลให้กับญาติและสาธารณะชนเป็นอย่างมาก
จากกรณีที่เกิดขึ้นที่ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตาดังกล่าวข้างต้น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มีข้อเสนอแนะและเรียกร้อง ดังนี้
1. ขอให้ผู้บัญชาการผู้มีอานาจสั่งพักราชการเจ้าหน้าที่ที่อาจมีส่วนรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตของทหารทั้งสองนายโดยทันทีและแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระ มีความเชี่ยวชาญและมีอานาจให้สอบข้อเท็จจริงกรณีนี้อย่างเร่งด่วนและโปร่งใส และหากพบว่ามีผู้กระทาความผิด ต้องนาตัวผู้กระทาผิดมารับโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา และจัดการเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียหายทั้งสองอย่างเหมาะสม
2. ขอให้รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมเร่งดาเนินตรา พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการบังคับให้บุคคลสูญหาย เพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ให้สอดคล้องกับหลักการสากล โดยกาหนดให้การซ้อมทรมานหรือการประติบัติที่ทารุณโหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือยายีศักดิ์ศรี เป็นความผิดทางอาญา กาหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการซ้อมทรมาน และในการชดใช้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการทรมาน ทั้งในด้านร่างกาย และจิตใจ ตามที่ได้ให้คามั่นไว้กับประชาคมระหว่างประเทศและในระหว่างการทบทวนรายงานสิทธิมนุษยชนต่อองค์กรสหประชาชาติ
3.ขอให้รัฐบาลยอมให้คณะกรรมการอิสระเข้าตรวจสอบสถานที่คุมขังได้ ตามพันธกรณีที่ประเทศไทยได้ทำไว้ในฐานะรัฐภาคี อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ ซึ่งเป็นไปตามมาตราการหนึ่งที่ คณะกรรมการต่อต้านการทรมารได้เสนอแนะต่อรัฐบาลไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 เกี่ยวกับการตรวจสอบและการตรวจเยี่ยมสถานที่คุมขัง ในย่อหน้าที่ 24 ว่าคณะกรรมการฯ ระบุว่า หน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานสามารถเข้าตรวจเยี่ยมสถานคุมขังได้ รวมองค์กรเอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ เมื่อมีการร้องขอและได้รับอนุญาตก่อน คณะกรรมการฯตั้งข้อสังเกตว่า ถ้อยแถลงของคณะผู้แทนของประเทศไทยที่ว่าจะดำเนินการภาคยานุวัติพิธีสารเลือกรับต่ออนุสัญญาต่อต้านการทรมาน OPCAT ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯยังไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสถานที่คุมขัง จึงยังคงห่วงใยว่า สถานที่คุมขังทุกประเภทและทั้งหมดมีการอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และเป็นอิสระ แลสามารถตรวจสอบได้หรือไม่
4. ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก คณะกรรมการการต่อต้านการทรมาน องค์กรสหประชาชาติ ว่าด้วย (ก) ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งโดยการตรวจเยี่ยมปกติ และการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยการตรวจสอบระดับชาติและระดับระหว่างประเทศ ที่เป็นอิสระ การตรวจสอบยังรวมถึงการตรวจสอบจากองค์กรเอกชน เพื่อป้องกันการทรมานและการประติบัติและการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักดิ์ศรี (ข) นาเสนอข้อเสนอแนะจากการตรวจเยี่ยมเผยแพร่สู่สาธารณะ และติดตามผลของระบบการตรวจสอบดังกล่าว (ค) เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ เวลา และระยะเวลา การตรวจสอบ รวมถึงการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ตามสถานที่ที่ทาให้สูญสิ้นเสรีภาพ ตลอดจนข้อค้นพบและการติดตามผลของการตรวจเยี่ยมดังกล่าว (ง) ให้สัตยาบันพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักดิ์ศรี และจัดตั้งกลไกป้องกันแห่งชาติ
-
file download
