ในหลวง พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ในหลวง พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม พร้อมทั้ง โกศไม้สิบสอง และรับพระราชานุเคราะห์ 7 วัน ทั้งนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลหลังวันที่ 23 เม.ย ...
ภายหลังจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร มรณภาพลงด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ 86 ปี พรรษา 64 เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ นำสรีระสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลกรุงเทพมาประกอบพิธีสรงน้ำศพและบำเพ็ญกุศลศพ ณ ศาลาเศรษฐีทอง วัดสุทัศนเทพวรารามฯ โดยมีพระธรรมรัตนดิลก (เชิด จิตฺตคุตฺโต) รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เป็นประธานนำคณะสงฆ์ขอขมากรรมและสรงน้ำศพ จากนั้นนางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และผู้บริหาร พศ. ร่วมสรงน้ำ ซึ่งทางวัดได้เปิดให้ข้าราชการ ศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน สรงน้ำศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ จนถึงในเวลา 16.30 น.
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่องเกียรติยศประกอบศพตามสมณศักดิ์ ประกอบด้วย น้ำหลวงสรงศพ ไตรครอง โกศไม้สิบสอง ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ทั้งนี้ พระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้แต่งตั้ง พระธรรมรัตนดิลก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามฯ และเจ้าคณะภาค 4 เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามฯ โดยมีพิธีมอบตราตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามฯ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้าน พระธรรมรัตนดิลก รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพนวราราม กล่าวว่า หลังจากครบพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน ศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ในวันที่ 23 เม.ย. 59 ทางวัดจะเปิดให้ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลศพจนครบ 100 วัน โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกวันในเวลา 19.00 น หลังจากนั้นทางวัดจะขอพระราชทานเพลิงศพสมเด็จฯ ต่อไป ส่วนการบริหารงานวัดหลังจากนี้ เนื่องจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์อาพาธมานานหลายปี ไม่ได้สั่งเรื่องใดๆ ไว้เป็นพิเศษ จึงบริหารงานไปตามปกติ ซึ่งขณะนี้ตนได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เพื่อมาสานงานต่อ
นอกจากนี้ พระราชวิจิตรปฏิภาณ (สุนทร ญฺณสุนทโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ กล่าวว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้เจริญกรรมฐานในเรื่องการตาย มานานกว่า 20 ปี และก่อนที่ จะมรณภาพ ได้มีความประสงค์ให้บูรณะศาลาเศรษฐีทอง เพื่อเป็นสถานที่ตั้งศพ อีกทั้งสั่งการไว้ว่าขอให้ตั้งศีรษะไปทางทิศตะวันออก เพื่อเป็นการเคารพพระประธาน ในส่วนของความตั้งใจของท่าน ในขณะนี้ได้ทำสำเร็จทุกอย่างแล้วทั้งในส่วนของคำปรารพที่อยากให้บูรณะวัดที่ ทรุดโทรมให้สวยงามเช่นเดียวกับการสร้างใหม่ การให้วัดเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม โดยขณะนี้พบว่ามีพุทธศาสนิกชนสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันในส่วนของการสร้างพระนักเทศน์ นักปาฐกถา และนักวิชาการ ทางวัดก็ได้มีการผลิตพระที่มีความสามารถมากที่สุดครบทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องอื่นๆ ที่เป็นข่าวนั้น เปรียบได้กับเหาปลาวาฬ ภาคสังคมก็ตรวจสอบกันอยู่แล้ว ดังนั้นท่านจึงไม่เป็นห่วงกับอะไรทั้งสิ้น.

