คสช.ปัดมีโกงลอกคลองพิษณุโลกโต้ปรับทัศนคติชาวบ้าน
โฆษก คสช. ปัดปรับทัศนคติชาวบ้าน แค่ให้ข้อมูล ซัดอดีตนักการเมืองบิดเบือนข้อมูล ขุดลอกบึงหนองพลไม่เสร็จตามสัญญามีการจ่ายค่าปรับ ไร้ทุจริต - ยัน จับกุมคนผิดใช้โซเชียลมีหลักฐาน
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการขุดลอกบึงหนองพล ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีคณะบุคคลเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่า ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นเจ้าของงบประมาณ ดำเนินการจัดจ้าง ซึ่งงานยังไม่เสร็จตามกำหนด จึงมีการเสียค่าปรับตามสัญญาจ้าง และยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ดังนั้น จึงไม่ใช่การทุจริตของหน่วยงานราชการ ส่วนกระแสข่าวมีชาวบ้านถูกทหารเรียกไปปรับทัศนคติในค่ายทหารนั้น ข้อเท็จจริงคือ ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวต้องการมาให้ข้อมูลต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว โดยมีการบันทึกข้อมูลไว้อย่างครบถ้วน
ขณะเดียวกัน พ.อ.ปิยพงศ์ ระบุว่า พฤติกรรมต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้วของกลุ่มอดีตนักการเมือง ได้เป็นที่ปรากฏชัดว่า มีลักษณะบิดเบือน ปลุกกระแสของความเข้าใจผิด สร้างความสับสน และภาวะความเครียดให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คสช. จึงขอชี้แจงให้ประชาชนรับทราบและติดตามพฤติกรรมบุคคลเหล่านี้
พ.อ.ปิยพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่มีการควบคุมตัวและตั้งข้อหาแก่ผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียส่งข้อความต่าง ๆ เช่น น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ หรือ แม่จ่านิว และบุคคลอื่น ว่า จากการตรวจสอบอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่ามีการโพสต์ข้อความล่วงละเมิดและไม่เหมาะสมอีกมาก นอกเหนือจากการที่มีการอ้างว่าเขียนเพียงคำว่า "จ้า" อย่างไรก็ตาม ในกรณี น.ส.พัฒน์นรี ศาลได้ให้โอกาสประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ตามกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายเช่นพลเรือนทั่วไปที่กระทำผิด
ขณะเดียวกัน พ.อ.ปิยพงศ์ ระบุว่า อยากเรียกร้องให้ นางแคทินา อดัมส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านภาคพื้นเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ติดตามข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการแสดงความคิดเห็น และอยากให้เปิดรับข้อมูลจากประชาชนในส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มนักจัดกิจกรรมการเมืองเหล่านี้ รวมถึงผู้ที่ถูกกระทำการพาดพิง หมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำ ซึ่งเชื่อว่าทุกประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ และลงโทษผู้กระทำผิดไม่แตกต่างกัน
ขอบคุณข่าวจาก

