ไม่เอื้อปย.ธุรกิจผิดกม.!ผอ.สำนักปราบปรามไอซีที แจงยิบเหตุเว็บโป๊ระบาดหนัก
ผอ.สำนักปราบปรามฯ ไอซีที แจงเหตุเว็บโป๊ระบาดหนักโลกออนไลน์ สั่งปิดปุ๊บ จดทะเบียนเปิดใหม่ปั๊บ เผยปัจจุบันมีทั่วโลกนับพันเว็บ ระบุชัด "ปิดเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด" ยันที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ ไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ทำธุรกิจผิดกม.แน่นอน

การตรวจสอบจัดการ เว็บไซต์ลามก อนาจาร ของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กำลังถูกจับตามอง เมื่อ องค์กรเครือข่ายการป้องกันการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ที่นำโดย นายกฤษณพิศุทธ์ กล้าหาญ ประธานองค์กรเครือข่ายฯ เข้าร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ระบุว่า ปัจจุบันมีเว็บไซต์ ลามก อนาจาร เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่เมื่อโทรศัพท์ไปร้องเรียนข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวนเว็บไซต์ประเภทนี้ กับยังคงอยู่ไม่ได้มีการสั่งปิดแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการร้องเรียนจาก นาย กฤษณพิศุทธ์ กล้าหาญ ประธานองค์กรเครือข่ายการป้องกันการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ว่า ปัจจุบัน มีเว็บไซต์ลามก อนาจาร ในโลกออนไลน์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 50 เว็บ และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก 20-30 เว็บไซต์ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทำการร้องเรียนไปที่สายด่วน ร้องเรียน 1212 ของ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแล้ว ก็ไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา และเมื่อโทรไปสอบถามไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ก็ไม่มีการสั่งปิดเว็บประเภทนี้แต่อย่างใด ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไอซีทีว่า อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของเว็บไซต์หรือไม่ จึงขอให้สำนักข่าวอิศราช่วยเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังได้รับการร้องเรียนดังกล่าว ได้ติดต่อไปยังนายธนิต ประภาตนันท์ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพือสอบถามข้อเท็จจริง
นายธนิต ชี้แจงว่า ตนได้รับทราบว่ามีการร้องเรียนว่ากระทรวงไอซีทีไม่ยอมสั่งปิดเว็บไซต์ลามก อนาจาร ซึ่งสาเหตุที่ทางสำนักงานฯ สั่งปิดไม่ได้ เป็นเพราะเว็บไซต์ประเภทนี้ มีจำนวนหลายล้านเว็บทั่วโลก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีผลกำไรจากกลุ่มคนที่มีความชอบในเรื่องลักษณะนี้ ทำให้ไม่สามารถตามปิดได้หมด ที่ผ่านมาทางไอซีที พยายามตรวจสอบเรื่องนี้มาตลอด โดยจะรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ที่ผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล โดยรอคำสั่งศาล 15 วัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ไอซีที จะแจ้งไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ทำการปิดเว็บไซต์
นายธนิต กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้จะปิดไปแล้ว แต่เจ้าของก็จะไปใช้วิธีการจดทะเบียนขึ้นมาใหม่ เป็นอีกยูอาร์แอลลิงค์หรือเป็นอีกเว็บไซต์หนึ่ง ที่มีเนื้อหาเหมือนเดิมซึ่งลักษณะเช่นนี้ ทางไอซีที จะอาศัยคำสั่งศาลเดิมแล้วแจ้งปิดไปใหม่ ถ้าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมีการฝ่าฝืนคำสั่งศาลเกิน 3 ครั้ง ทางไอซีที จะดำเนินคดีเอาผิดโดยส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินการต่อไป
ส่วนกรณีที่ผู้ร้องเรียนตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไอซีทีว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพราะเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ทำธุรกิจเว็บลามก
นายธนิต ระบุว่า ยืนยันว่า "ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน เราก็เฝ้าระวังอยู่ประจำ มันเยอะมาก ใครมาแจ้ง เราก็รับแจ้งแล้วดำเนินการ มันไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่พอปิดไปแล้วเขาก็เปิดต่อ เพราะราคาที่จดทะเบียนมันได้ผลประโยชน์มากกว่า ปิดเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด”
เมื่อถามว่า ปัจจุบันมีข้อมูลของผู้กระทำผิดหรือไม่ นายธนิต ตอบว่า “เรามีหน้าที่ปิดแล้วส่งให้ตำรวจสืบสวนอีกที อย่างว่าผู้ที่กระทำความผิดจดทะเบียนที่ต่างประเทศ เราไปขอข้อมูลจากต่างประเทศแล้วเขาไม่ให้ เราก็พยายามสืบเสาะเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตำรวจก็จับไปเยอะ”
นายธนิต ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ทางไอซีที มีการรวมผู้ปกครอง ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาแจ้งถึงปัญหาเยาวชนในการเข้าถึงสื่อลามก โดยมีแผ่นซอฟต์แวร์ให้ติดกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บ้านเพื่อป้องกันการเข้าถึงเว็บลามาในเบื้องต้น โดยจะแจกให้หรือดาวน์โหลดได้กับทางเว็บไซต์กระทรวงไอซีที ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังได้อีกทางหนึ่งด้วย
