สภาทนายความ ออกโรงจี้ตำรวจ-ไอซีทีจัดการเว็บหมิ่นเบื้องสูง
“สัก กอแสงเรือง” ออกแถลงการณ์ในนามสภาทนายความ กระตุ้นคนไทยร่วมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-ก.ไอซีที เร่งจัดการสื่อสังคมออนไลน์หมิ่นเบื้องสูง
วันที่ 23 ธ.ค.54 สภาทนายความ โดยนายสัก กอแสงเรือง นายกสมาคมฯออกแถงการณ์ “ขอให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดอาญาเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรไทย (กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทางสื่อออนไลน์)” ใจความว่าตามที่กลุ่มทนายความจังหวัดขอนแก่นรักในหลวง และตัวแทนภาคประชาชนขอนแก่น ขอให้สภาทนายความฟ้องร้องดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐกรณีไม่ดำเนินการต่อกลุ่มบุคคลที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพทางสื่อออนไลน์ และสภาฯออกแถลงการณ์ 13 ธ.ค.54 แล้วนั้น
สภาทนายความขอยืนยันว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ตามบัญญัติในรัฐธรรมนูญ การที่มีบุคคลใส่ความ กล่าวเท็จ ให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์และกระทำการมิบังควรต่อพระบรมสาทิสลักษณ์ทางสื่อออนไลน์ เป็นการหมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
โดยที่เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ในหน่วยราชการหลายหน่วย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ก็มิได้เร่งรัดดำเนินการกับผู้กระทำผิดดังกล่าว เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และข้อเรียกร้องของกลุ่มทนายความขอนแก่นสอดคล้องกับหน้าที่ชาวไทยที่ต้องพิทักษ์รักษาซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ
ต่อมาได้มีหน่วยงานองค์กรระหว่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตต่างๆในประเทศ แสดงความคิดเห็นกรณีมาตรา 112 หลายประการ สภาทนายความจึงขอแถลงการณ์อีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.สืบสวนหาข้อมูลการกระทำผิด แจ้งข้อกล่าวหา สอบสวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ผู้สนับสนุน ผู้จ้างวาน ใช้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายสอดคล้องกับหลักนิติธรรม
2.กรณียังไม่พบตัวผู้กระทำความผิด แต่เมื่อเป็นความผิดอาญาที่สำคัญต่อ ความมั่นคงของชาติ และแนวโน้มการกระทำมีมากขึ้นให้เห็นได้เด่นชัดเป็นรูปของขบวนการ จึงขอให้เร่งรัดใช้มาตรการตอบโต้ยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บนสังคม ONLINE ที่มีผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจั
อนึ่งการกระทำที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์นอกประเทศก็เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดที่ผู้กระทำมุ่งประสงค์เพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศจากภายนอก เป็นความผิดตามมาตรา 127 หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งไม่จำกัดว่าจะเป็นการกระทำเช่นใด แต่หลักการของกฎหมายมาตรานี้คือความปลอดภัยของประเทศ
3.ขอให้ชาวไทยร่วมกันปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งพสกนิกรทุกหมู่เหล่าให้ความเคารพสักการะ อย่าให้ผู้ใดกระทำการอันมิบังควร สภาทนายความพร้อมที่จะร่วมดำเนินการทุกรูปแบบตามกฎหมายให้การกระทำผิดอาญาดังกล่าวหมดไปจากสังคมออนไลน์โดยเร็ว
สำหรับหน่วยงานองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ในประเทศไทยควรต้องเรียนรู้กฎหมายไทยในบริบทนี้ให้มากก่อนจะออกแถลงการณ์หรือให้ข่าวใดๆกับการที่ศาลยุติธรรมมีคำพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 กฎหมายอาญา สภาทนายความ ไม่ประสงค์จะเห็นหน่วยงานต่างประเทศ นำบรรทัดฐานของกฎหมายที่ต่างกันมาใช้โดยไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา วัฒนธรรม และความมั่นคงของชาติใดชาติหนึ่งที่สืบสานสถาบันกษัตริย์มานับเป็นพันปีแล้
อนึ่ง การที่กฎหมายไทยให้ความคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกรณีพิเศษ เป็นไปตามหลักกฎหมายนานาอารยประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรมีกฎหมายคุ้มครองพระราชินี-พระสวามี สหรัฐอเมริกามีกฎหมายคุ้มครองประธานาธิบดีเป็นกรณีพิเศษ และมีบทลงโทษสูงกว่าการกระทำต่อบุคคลทั่วไป .
